สมอ.สั่งพักใบอนุญาตผู้ประกอบการกว่า3,500ฉบับ

09 กันยายน 2562
สมอ.สั่งพักใบอนุญาตผู้ประกอบการกว่า3,500ฉบับ

          สมอ. สั่งพักใช้ใบอนุญาตผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าจำนวนกว่า 3,500 ฉบับ หลังพบไม่แจ้งข้อมูลปริมาณการนำเข้าสินค้าที่ได้รับใบอนุญาต หวั่นกระทบผู้บริโภคไม่ปลอดภัย เกรงลักลอบนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน รับลูก นมว.อุตสาหกรรมให้ลุยตรวจท้องตลาดอย่างเข้มงวด

นายวันชัย  พนมชัย  เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. สั่งพักใช้ใบอนุญาตผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าที่เป็นมาตรฐานบังคับ ซึ่งเป็นสินค้าที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคจำนวน 3,566 ฉบับ เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 2กันยายน 2562 ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2562 หลังไม่ยอมแจ้งข้อมูลปริมาณการนำเข้าสินค้าที่ได้รับใบอนุญาตย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่  31 ธันวาคม 2561

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน (มาตรฐานบังคับ) เข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร โดยผู้นำเข้าต้องแจ้งปริมาณการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับใบอนุญาตทุกครั้ง เพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาจำหน่าย และเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคในประเทศ นอกจากนี้ ยังทำให้การตรวจสอบควบคุมสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี  ในระหว่างที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต ผู้ประกอบการสามารถแจ้งข้อมูลกลับมาที่ สมอ. เพื่อดำเนินการตรวจสอบได้ หากเป็นไปตามที่แจ้ง สมอ. จะคืนสิทธิ์การใช้ใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการดังกล่าว แต่หากไม่แจ้งกลับมาภายในเวลาที่กำหนด สมอ. จะเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป ทั้งนี้ สินค้าที่ผู้ประกอบการจะต้องขออนุญาตนำเข้าจาก สมอ. เป็นสินค้าที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคหรือสินค้ามาตรฐานบังคับจำนวน 115 ผลิตภัณฑ์ อาทิ ผลิตภัณฑ์เหล็ก วัสดุก่อสร้าง ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปลั๊กพ่วง ถังก๊าซ ถังดับเพลิง ท่อพีวีซี ท่อไอเสีย สีและวาร์นิช ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร และหมวกกันน็อก ฯลฯ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องขออนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“การดำเนินการดังกล่าวของ สมอ. เป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับภารกิจของ สมอ. โดยเฉพาะการคุ้มครองผู้บริโภค ที่จะต้องได้รับการดูแลความปลอดภัยของสินค้า ดังนั้น จึงให้เข้มงวดเป็นพิเศษ ซึ่งหากสินค้ามีมาตรฐานก็จะส่งผลดีต่อผู้บริโภค ที่จะได้ใช้สินค้าที่มีมาตรฐานด้วยความปลอดภัย” 

อ่านต่อได้ที่ :https://www.thansettakij.com/content/409210


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.