เวียดนามกำลังพิจารณาขยายระยะเวลาสำหรับภาษีการปกป้องจากการนำเข้า (safeguard) ของบิลเล็ต (billet) และเหล็กทรงยาว เนื่องจากใกล้วันหมดอายุ ในวันที่ 21 มีนาคม
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากำลังดำเนินการตรวจสอบการขยายเวลาสำหรับภาษีการปกป้อง จากประกาศทางการ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้ตลาดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งสนับสนุนการขยายเวลา และอีกกลุ่มที่ต่อต้าน โดยภาษีการปกป้องนี้ ได้เริ่มเมื่อเดือนมีนาคม 2559
ภาษีปกป้องจากการนำเข้าบิลเล็ตและเหล็กทรงยาว ของเวียดนาม อยู่ที่ร้อยละ 23.3 และ 14.2 ตามลำดับ ซึ่งค่อยๆลดลงมาที่อัตราปัจจุบันที่ร้อยละ 17.3 และ 10.9 โดยจะหมดอายุในวันที่ 21 มีนาคมนี้
เริ่มแรก ภาษีปกป้องได้ช่วยให้อุตสาหกรรมเหล็กเวียดนามได้เติบโตภายในบรรยากาศที่ได้รับการปกป้อง แต่ผู้ประกอบการบางรายเห็นว่าภาษีปกป้องเป็นดาบสองคม เป็นจำกัดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ผลิตเหล็กเตา electric arc furnace กับ ผู้ผลิตเหล็กจากเตาถลุง (blast furnace) ในประเทศ
การรวมบิลเล็ตจากคาซัคสถานและมาเลเซียเข้ามาในลิสต์การปกป้องก่อนหน้านี้ (มิถุนายน 2562) ได้ทำให้บางโรงงานเหล็กแย่ลง ซึ่งโรงงานเหล็กเหล่านี้ได้ใช้ประโยชน์จากราคาบิลเล็ตที่ต่ำกว่า (เทียบกับส่วนต่างการหลอมเศษเหล็ก) แหล่งข่าวจากโรงงานเหล็กเวียดนามเหนือกล่าว
ที่โชคร้ายคือ เราไม่มีทางเลือก ทั้งการซื้อบิลเล็ตในประเทศจากผู้ผลิตเหล็กเตาถลุงที่นี่ หรือการหลอมเศษเหล็ก ก็ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นทั้งนั้น
กำลังการผลิตเหล็กเวียดนามเติบโตขึ้นตั้งแต่ปี 2559 ที่เรียกกันว่าเป็นการจุดประกายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากผู้ผลิตเหล็กเริ่มขยายหรือเพิ่มเตาใหม่ๆท่ามกลางบรรยากาศการปกป้องการนำเข้า นอกจากนั้น ความต้องการวัตถุดิบยังเพิ่มสูงมากขึ้นมากอีกด้วย เนื่องจากการผลิตขยายตัว
การผลิตเหล็กดิบเวียดนามโตเกือบ 3 เท่า ช่วงระหว่างปี 2559 – 2562 โดยมีการผลิตอยู่ที่ 20.1 ล้านตันในปี 2562 จากข้อมูล Worldsteel Association การนำเข้าเศษเหล็กของเวียดนามในปี 2562 ได้เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 43 ในช่วงนั้น อยู่ที่ 5.58 ล้านตัน