ตลาดเหล็กจีนได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน
ตลาดเหล็กจีนถูกคาดว่าจะมีการเติบโตของความต้องการที่เข้มแข็งมากขึ้นภายในกลางปีนี้ ถ้าการลงทุนในทรัพย์สินถาวรในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ (Fixed Asset Investment: FAI) หรืออัตราการเติบโตของ FAI เพิ่มขึ้นที่ประมาณร้อยละ 10 ในปี 2563 จากร้อยละ 3.8 ในปี 2562 แหล่งข่าวในตลาดกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 เมษายน)
รัฐบาลจีนได้ชี้ให้เห็นถึงแผนที่จะเพิ่มการกระตุ้นภาคสาธารณูปโภคพื้นฐาน หลังจากอัตราการเติบโตของ FAI เป็นลบในไตรมาสที่หนึ่ง อัตราการเติบโตของ FAI ของประเทศจีนในไตรมาสที่หนึ่งลดลงร้อยละ 19.7 จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ถูกคาดการณ์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 15 ในระยะเวลา 9 เดือนที่เหลือของปี ซึ่งจะมีความต้องการเหล็กที่เพิ่มขึ้น แหล่งข่าวในตลาดกล่าว
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานจะช่วยทดแทนการลดลงของความต้องการจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ความต้องการจากการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานคาดว่าจะมีในเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายน หลังจากรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีมากขึ้น ในระหว่าง การประชุม National Congress และ Political Consutative Conference ซึ่งคาดว่าจะมีในปลายเดือนเมษายนหรือเดือนพฤษภาคม
Political Bureau (Politburo) ของจีนในระหว่างการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 เมษายน) ได้ให้คำมั่นว่าจะประกาศมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางด้านการเงินและการคลังที่มากขึ้นเพื่อทดแทนผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาต่อเศรษฐกิจของประเทศ
สาธารณูปโภคพื้นฐานถูกเลือกเป็นภาคหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มการจ้างงาน ในขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการเป็นอยู่อาศัย “ไม่ใช่การเก็งกำไร” เพื่อป้องกันการร้อนแรงมากเกินไป
แหล่งข่าวบางรายกล่าวว่า ความต้องการเหล็กที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 จะมีมากกว่าไตรมาสที่ 2 แต่เตือนว่าการผลิตเหล็กที่มาก เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตในปี 2562 และครึ่งแรกของปี 2563 จะทำให้ราคาเหล็กนั้นจะถูกควบคุมไว้
-- Analyst Jing Zhang