นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ. ได้ดำเนินการปรับลดประมาณการณ์ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือเอ็มพีไอ (MPI) ปี 63 ทั้งปีติดลบ 6-7% จากเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 2-3% โดยถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มมีการคำนวณดัชนีเอ็มพีไอเมื่อเดือนมกราคม 43 และปรับลดอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม(จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมติดลบ 5.5-6.5% จากเดิมคาดขยายตัว 1.5-2.5% เนื่องจากผลกระทบจากต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ออกไปเป็นวงกว้างและยังควบคุมไม่ได้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศเริ่มผ่อนคลายในทิศทางที่ดีขึ้น
“สศอ. มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจในประเทศน่าจะกลับมามีกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ จากการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ค่อนข้างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังต้องประเมินเศรษฐกิจต่างประเทศที่ยังไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ด้วย ซึ่งอาจจะยืดเยื้อไปถึงสิ้นปี ดังนั้น จึงต้องรอประเมินสถานการณ์ของต่างประเทศอีกครั้ง คาดว่าใน 2-3 เดือนข้างหน้าจะชัดเจนมากขึ้นว่าจะส่งผลกระทบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยอีกแค่ไหน จากปัจจุบันสัดส่วนการผลิตของไทยมีการจำหน่ายในประเทศและส่งออกประมาณ 50 ต่อ 50 ซึ่งหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็มั่นใจว่าจะสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้”
สำหรับดัชนี MPI เดือนมีนาคม 63 นั้น หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.25% โดยได้รับผลกระทบเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและภัยแล้ง ส่งผลให้ MPI ไตรมาสแรกปี 63 หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.63% อย่างไรก็ตามการจำหน่ายมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 3.49% โดยผู้ประกอบการในบางอุตสาหกรรม อาทิ อาหารแปรรูป ได้ปรับเพิ่มการผลิตสินค้าให้เข้ากับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยที่ MPI เดือนมีนาคม ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ 1.87% อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ 67.22%
อ่านต่อได้ที่:https://www.thansettakij.com/content/Macro_econ/432079?utm_source=sub_category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=industry