ผู้ผลิตเหล็กอิตาลีได้กลับมาดำเนินการหลังจากสูญเสียปริมาณการผลิตไปร้อยละ 40 จากการล็อกดาวน์

29 เมษายน 2563
ผู้ผลิตเหล็กอิตาลีได้กลับมาดำเนินการหลังจากสูญเสียปริมาณการผลิตไปร้อยละ 40 จากการล็อกดาวน์

ผู้ผลิตเหล็กอิตาลีได้กลับมาดำเนินการหลังจากสูญเสียปริมาณการผลิตไปร้อยละ 40 จากการล็อกดาวน์

ผู้ผลิตเหล็กอิตาลีสูญเสีย ปริมาณการผลิต 1.0 – 1.3 ล้านตัน ในระหว่างการล็อคดาวน์อย่างเข้มงวด 4 สัปดาห์ และได้กลับมาผลิตใหม่ในขณะนี้ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตประมาณ ร้อยละ 40-50 ของกำลังการผลิตเต็มที่ ผู้ผลิตส่วนใหญ่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19

ผู้บริหารโรงงานเหล็กกล่าวว่า กำลังประเมินสถานการณ์ตลาดเรื่องปัญหาต่างๆ เช่น การประเมินความต้องการในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เหล็กหลักๆ เช่น ยานยนต์ และก่อสร้าง ตลาดเหล่านี้ยังคงพักอยู่ และเมื่อกลับมาเปิดใหม่ น่าจะไม่เริ่มผลิตที่กำลังการผลิตเต็มที่

รัฐบาลอิตาลีเซ็นพระราชกำหนด ก่อนช่วงวันหยุดอีสเตอร์ เพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดเพื่อลดการระบาดของไวรัสโคโรนา หลังจากการล็อคดาวน์ประมาณ 4 สัปดาห์ แต่ไม่ได้รวมอุตสาหกรรมเหล็ก ผู้ผลิตเหล็กเริ่มกลับมาเปิดอย่างช้าๆ ในสัปดาห์ 13 เมษายน หลังจากได้รับอนุญาต

อิตาลีเป็นผู้ผลิตเหล็กที่มากเป็นอันดับที่ 2 ในทวีปยุโรป ผลิตเหล็กประมาณ 23 ล้านตันต่อปี แต่ก็ไม่เหมือนประเทศยุโรปอื่นส่วนใหญ่ โรงงานเหล็กอิตาลีจำนวนมากหยุดการผลิตในช่วงวันที่ 16-23 มีนาคม ยกเว้น คือ อาร์เซลอร์ มิตตัล อิตาเลีย (ArcelorMittal Italia) ใน Taranto อิตาลีใต้ และ Arvedi ในอิตาลีเหนือ

ในการที่จะเข้าใจถึงความต้องการในอีกหลายเดือนข้างหน้า เป็นประเด็นหลัก ถ้าการลงทุนภาครัฐในสาธารณูปโภคพื้นฐานไม่เกิดขึ้น มันอาจจะยากที่จะฟื้นฟูความต้องการส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อนๆ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ในครัวเรือนขนาดใหญ่ หลายกลุ่มอาจไม่ฟื้นตัวเหมือนเช่นแต่ก่อน แหล่งข่าวจากสมาคมเหล็กอิตาลีชั้นนำแห่งหนึ่งให้ความเห็น

จากข้อมูลของ Federacciai ซึ่งเป็นสมาคมผู้ผลิตเหล็กอิตาลี ปริมาณการผลิตเหล็กดิบอิตาลีในเดือนมีนาคม อยู่ที่ 1.37 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 40.2 จากเดือนก่อน ซึ่งเป็นการแสดงถึงระยะเวลาล็อกดาวน์ส่วนหนึ่งเท่านั้น

การผลิตยานยนต์และการก่อสร้างตึก คาดว่าจะกลับมาในสัปดาห์หน้า แต่การมีลูกค้า ไม่ใช่ปัญหาของผู้ผลิตเหล็ก ผู้ผลิตเหล็กพึ่งพาเศษเหล็กจากผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรม เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ และยากที่จะได้เศษเหล็กมา เนื่องจากการล็อคดาวน์  โรงงานเหล็กอิตาลีส่วนใหญ่ เป็นการผลิตเหล็กโดยใช้เตา EAF ซึ่งต้องใช้เศษเหล็ก และมีเพียงข้อยกเว้นเดียว คือ AM Italia ซึ่งมี เตาถลุงเหล็ก  จากแหล่งข่าวอุตสาหกรรม โรงงานเหล็กมีอัตราใช้กำลังการผลิตที่ร้อยละ 40-50  และค่อนข้างยากที่จะได้เศษเหล็กมาประมาณ 1 เดือน

แหล่งข่าวเหล่านี้คาดว่า อิตาลีจะผลิตเศษเหล็กประมาณ 13.5 ล้านตัน ถึง 14 ล้านตันต่อปี สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ผลิตเหล็กในประเทศได้ร้อยละ 70 และในส่วนที่เหลือนั้นจะถูกนำเข้ามา

เมื่อผ่อนคลายการล็อกดาวน์ลง ผู้อยู่ในตลาดได้จับตามองความสมดุลย์ของความต้องการและปริมาณของเศษเหล็ก เนื่องจากจะกระทบต่อราคาวัตถุดิบ และราคาผลิตภัณฑ์เหล็ก รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นของผู้ผลิตเหล็ก

ตั้งแต่การเริ่มล็อกดาวน์ ราคาเศษเหล็กอิตาลี ลดลงประมาณ 20 ยูโรต่อตัน แหล่งข่าวกล่าว  ดีลเลอร์เศษเหล็กบอก Platts เมื่อวันอังคาร (28 เมษายน) ว่า ตั้งแต่เริ่มต้นสัปดาห์นี้ ราคาเศษเหล็กลดลงเล็กน้อยเท่านั้น ประมาณ 5 ยูโรต่อตัน จากสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในวันที่ 10 เมษายน ราคาเศษเหล็กยุโรปตอนใต้ประจำเดือนของ TSI-Platts ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยของประเทศยุโรปใต้ทั้งหมด อยู่ที่ 237.50 ยูโรต่อตัน ล็อตส่งเดือนเมษายน ลดลงจาก 225 ยูโรต่อตัน ล็อตส่งเดือนมีนาคมและเดือนกุมภาพันธ์

-- Annalisa Villa

 

 


แหล่งที่มา : Steel Business Briefing

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.