ทั้งนี้ บริษัทมีฐานลูกค้าที่กระจายไปในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ อาทิ อุตสาหกรรมการก่อสร้างของภาคเอกชนที่มีการชะลอตัวลง โดยเฉพาะในส่วนของรายกลาง และรายเล็ก ที่ชะลอการใช้สินค้าหรือการบริโภคลง เพราะต้องรักษาเสถียรภาพทางการเงินและดำเนินการด้วยความระมัดระวัง แต่การลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และโครงการขนาดใหญ่ที่มีการวางแผนมานานยังมีการลงทุนต่อ จึงมองว่าผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมเหล็กภาพรวมน่าจะไม่มากนักและเป็นแค่ระยะสั้น สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์มองว่าจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก โดยที่มีผ่านมาจะเห็นยอดขายหดตัวลง แต่บริษัทมีสัดส่วนของการขายไปในส่วนของรถยนต์นั่งค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสัดส่วนหลักที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อาทิ รถรถบรรทุก รถที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตร และรถการขนส่ง ซึ่งตลาดรถยนต์กลุ่มเหล่านี้หดตัวลงบ้างแต่ไม่มากนัก "ปัจจุบันปริมาณเหล็กในตลาดโลกถือว่ายังล้นตลาดอยู่ และถือว่าเป็นสินค้าที่มีการบริโภคจำนวนมากทั้งโลก ในทิศทางเดียวกับกลุ่มน้ำมันที่ราคามีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามเราถือว่ามีจุดแข็งจากด้านการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งด้านการบริหารจัดการที่ช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าให้ดีขึ้น และมาตรฐานการผลิตที่สูงขึ้น ช่วยให้เราสามารถตอบโจทย์แก่ลูกค้า และสร้างมาร์จิ้นในส่วนนี้ได้ นอกเหนือจากการเป็นเพียงแค่ผู้ผลิต"นายไพศาล กล่าว

อ่านต่อได้ที่:https://www.ryt9.com/s/iq05/3135489