การผลิตเหล็กดิบ (crude steel) ของญี่ปุ่น ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2563 อยู่ที่ 42.21 ล้านตัน ปรับลดลงร้อยละ 17.4 จากปีที่ผ่านมา จากข้อมูลที่ออกมาวันที่ 22 กรกฎาคม โดย สมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศญี่ปุ่น (The Japan Iron and Steel Federation)

          ในเดือนมิถุนายน มีปริมาณการผลิตลดลงร้อยละ 36.3 จากเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา และลดลงร้อยละ 5.5 จากเดือนพฤษภาคม โดยมีปริมาณอยู่ที่ 6.59 ล้านตัน

          การผลิตเหล็กรีดร้อน (Hot-rolled) ในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 37.15 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 17.5 จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และในเดือนมิถุนายน ชการผลิตเหล็กรีดร้อนชนิดม้วน เท่ากับ 5.05 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 33.9 จากเดือนมิถุนายน ปี 2562 และลดลงร้อยละ 2.7 จากเดือนพฤษภาคม

          การผลิตจากเตาถลุง (blast furnaces) ในครึ่งแรกของปี ลดลงร้อยละ 17.2 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอยู่ที่ 31.68 ล้านตัน และการผลิตจากเตา EAF (Electric Arc Furnace) ลดลงร้อยละ 17.9 มีปริมาณ 10.53 ล้านตัน

          ในครึ่งปีแรก สัดส่วนเหล็กดิบจากเตาถลุงและ เตา EAF เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ที่ร้อยละ 75.0 และ ร้อยละ 25.0 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อน อยู่ที่ ร้อยละ 74.9 และร้อยละ 25.1 ตามลำดับ

          อุตสาหกรรมเหล็กญี่ปุ่นเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กในไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะเท่ากับ 17.28 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 24.3 จากช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ข้อมูลจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม

          กระทรวงคาดการณ์ว่า ความต้องการจากการก่อสร้างคาดว่าจะยังคงซบเซา เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมการผลิต แต่ความต้องการเหล็กคาดว่าจะดีขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตญี่ปุ่นค่อยๆเพิ่มการผลิต

          ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ ได้แก่ โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) และมาสด้า มอเตอร์ (Mazda Motor) ได้ประกาศขั้นตอนในการเพิ่มการผลิตจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป โดยโตโยต้าจะผ่อนคลายเรื่องการลดการผลิตรถยนต์ในเดือนสิงหาคม โดยลดเพียงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับการลดร้อยละ 10 ในเดือนกรกฎาคม และลดร้อยละ 40 ในเดือนมิถุนายน

          ข่าวดี คือ เราได้ยินว่าผู้ผลิตรถยนต์และเครื่องจักรกลการเกษตร วางแผนที่จะกลับมาสู่การผลิตปกติในเดือนสิงหาคม เทรดเดอร์เศษเหล็กและเหล็กในญี่ปุ่น กล่าว  อย่างน้อยก็เป็นข่าวดีสำหรับความต้องการเหล็กที่จะกลับมา หลังจากตกต่ำมากในไตรมาสที่ 2

          ในเดือนมิถุนายน เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่น เผชิญกับความท้าทายมากขึ้นไปอีก เนื่องจากการสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (Purchasing Managers Index: PMI) ชี้ให้เห็นถึงการลดลงอย่างรุนแรงของคำสั่งซื้อใหม่ ปริมาณการผลิต และการซื้อ  โดยดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมการผลิตญี่ปุ่น โดย au Jibun Bank (au Jibun Bank Japan Manufacturing PMI) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 40.1 ในเดือนมิถุนายน จาก 38.4 ในเดือนพฤษภาคม ทั้งๆที่มีการเพิ่มขึ้น แต่การผลิตยังคงหดตัว และชี้ให้เห็นถึงภาคการผลิตสินค้าที่ย่ำแย่ลง  ดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมการผลิตญี่ปุ่น (au Jibun Bank Flash Japan Manufacturing PMI) ในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นไปที่ 42.6 (ซึ่งข้อมูลที่ได้ทำการกำจัดอิทธิพลของฤดูกาล (seasonally adjusted)) แล้ว

 

-- Clement Choo, Samuel Chin