สุริยะเผยความต้องการแรงงานภาคอุตฯยังมีอีกมากชูแผนพัฒนาอุตฯเป้าหมายรองรับอุตสาหกรรมวิถีใหม่

23 กรกฎาคม 2563
สุริยะเผยความต้องการแรงงานภาคอุตฯยังมีอีกมากชูแผนพัฒนาอุตฯเป้าหมายรองรับอุตสาหกรรมวิถีใหม่
กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เผยตัวเลขความต้องการแรงงานภาคอุตฯ ยังมีอีกมาก เร่งผลักดันแผนพัฒนาฯ เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมไทย ตอบสนองความต้องการแรงงานจากสถานการณ์โควิด-19 ชี้เป็นโอกาสที่ดีในการยกระดับแรงงานรองรับการทำงานวิถีใหม่ในอุตสาหกรรม 4.0
           นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมไทยยังมีความต้องการแรงงานอยู่อีกมาก ข้อมูลจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ชี้ให้เห็นถึงความต้องการแรงงานในช่วง 6ไตรมาส (ม.ค. 62 – ก.ค. 63) จากโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการแล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งประกอบกิจการมีความต้องการแรงงานอีกกว่า 141,593 คน โดยอุตสาหกรรมที่มีความต้องการทางด้านแรงงานสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมพลาสติก ประกอบกับความต้องการแรงงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและ โลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร) ปี 2563 – 2567 มีประมาณ 1,695,117 คน โดยมีความต้องการในระดับวิชาชีพจำนวน 735,373 คน ระดับอุดมศึกษาจำนวน 959,744 คน ซึ่งจะช่วยรองรับแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ได้

            นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) จะเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการยุคใหม่ที่เกิดขึ้นทั้งในอนาคตและสถานการณ์โควิด-19 เห็นได้จาก 3อุตสาหกรรมหลักที่ได้รับอานิสงส์ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากทั่วโลก ได้แก่ อุตสาหกรรม
อิเล็กทรอนิกส์ เวชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์รักษาโรค และอาหาร โดยจะต้องเตรียมศักยภาพแรงงานไทยให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่อุตสาหกรรมวิถีใหม่ ดังนี้
              1. ด้านความต้องการแรงงาน (Demand Side) พัฒนาระบบนิเวศด้านแรงงาน (Labour Ecosystem) เพื่อรองรับการพัฒนาแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เร่งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการเพื่อให้เกิดการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างองค์ความรู้ใหม่ระหว่างกันจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมฝีมือแรงงานในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย จัดทำฐานข้อมูลความต้องการด้านแรงงานทั้ง Demand Side และ Supply Side เพื่อให้สามารถพัฒนานักศึกษา ครูผู้สอน ให้ตรงกับทิศทางความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรม พัฒนาการวิจัยและเทคโนโลยี ยกระดับทักษะแรงงานในภาคอุตสาหกรรม สนับสนุนด้านทุนวิจัยที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม พัฒนาฐานข้อมูลความต้องการบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของสถานประกอบการและฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญในมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของภาครัฐ ให้ทันสมัยสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
             2. ด้านการผลิตแรงงาน (Supply Side) เพิ่มประสิทธิภาพการศึกษาให้เอื้อต่อการพัฒนากำลังคนในภาคอุตสาหกรรม จัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมแบบเข้มข้นในระยะสั้นเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกำลังคนในภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมระบบการศึกษาทางไกลผ่านระบบออนไลน์(E-learning) เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเอง ส่งเสริมภาพลักษณ์การอาชีวศึกษา เร่งปรับค่านิยม และวางรากฐานทักษะอาชีพให้แก่ผู้เรียนตั้งแต่วัยการศึกษาขั้นพื้นฐานพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ของแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม จัดฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะความรู้ในระยะสั้น เน้น On the Job Training และ Train the Trainer เพื่อผลิตกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาและสถานประกอบการในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างองค์ความรู้ใหม่ระหว่างกัน
                “การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีข้อมูลที่จำเป็นเพื่อใช้ประกอบในการกำหนดแนวทางการพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรมของประเทศ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐไม่สามารถดำเนินการเพียงลำพังได้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ซึ่งปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาทักษะกำลังคนจำเป็นต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคการศึกษา และแรงงาน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลเพื่อฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ”นายสุริยะ กล่าวปิดท้าย

อ่านต่อได้ที:http://www.todayhighlightnews.com/2020/07/blog-post_648.html

แหล่งที่มา : ข่าวเด่นวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.