มาเลเซียเริ่มการทบทวนและการไต่สวนสำหรับการตอบโต้การทุ่มตลาด (antidumping) สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กรีดเย็นชนิดม้วน (cold-rolled steel) จากเวียดนามและอินโดนีเซีย ข้อมูลจากกระทรวงการค้าต่างประเทศและอุตสาหกรรม ในวันที่ 28 กรกฎาคม
การทบทวนจะพิจารณาการนำเข้าเหล็กรีดเย็นชนิดม้วน ในรูปของเหล็กเจืออัลลอยและเหล็กที่ไม่เจืออัลลอย จากเวียดนาม จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งถูกเก็บภาษีการตอบโต้ทางการทุ่มตลาด ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ถึงวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 โดยภาษีเหล่านี้เรียกเก็บจาก 3 ประเทศ ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึง ร้อยละ 42.08
ไมครอน สตีล ซีอาร์ซี (Mycron Steel CRC) ได้ร้องขอให้มีการทบทวน และหลังจากพิจารณาหลักฐานแล้ว ทางกระทรวงกล่าวว่า อัตราการทุ่มตลาดของสินค้านี้จากเวียดนามได้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก และตัดสินใจที่จะเริ่มการทบทวนภาษีการตอบโต้การทุ่มตลาดที่เรียกเก็บจากสินค้าชนิดนี้ที่นำเข้าจากเวียดนาม
สำหรับการสอบสวน ได้ครอบคลุมถึงเหล็กสเตนเลสรีดเย็นชนิดม้วน (cold-rolled stainless steel in coils) ชนิดแผ่น (sheets) หรือในรูปแบบอื่นๆ ที่ส่งมาจากอินโดนีเซียและเวียดนาม และเป็นผลมาจากการร้องเรียนโดย บาห์รู สเตนเลส สตีล (Bahru Stainless Steel) ซึ่งกล่าวหาว่า การนำเข้าถูกทุ่มตลาดในมาเลเซีย ในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายในตลาดในประเทศของประเทศที่ถูกกล่าวหาอยู่มาก และนี่ทำให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมในประเทศของมาเลเซีย
การทบทวนเบื้องต้นนี้จะมีการตัดสินใจภายใน 180 วัน จากวันเริ่มต้น ในขณะที่ผลการทบทวนการตอบโต้การทุ่มตลาด จะทราบผลภายใน 120 วันจากวันเริ่มต้น
การสอบสวนการตอบโต้การทุ่มตลาดล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากมาเลเซียเริ่มการทบทวนผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบทรงแบนชนิดม้วน (coated flat-rolled steel) จากจีน เกาหลีใต้ และเวียดนาม ในปลายเดือนมีนาคม 2563
ในปี 2562 มาเลเซียนำเข้าเหล็กทรงแบนประมาณ 4.91 ล้านตัน ลดลงจาก 5.10 ล้านตันในปี 2561 ในขณะที่ความต้องการในประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ ลดลงไปอยู่ที่ 4.27 ล้านตันในปี 2562 จาก 4.42 ล้านตันในปี 2561 จากข้อมูลของ Malaysian Iron & Steel Industry Federation
-- Clement Choo
แหล่งที่มา : Steel Business Briefing