ดัชนีMPIมิ.ย.ขยายตัวจากเดือนก่อน4.18%พุ่งขึ้น2เดือนติด

29 กรกฎาคม 2563
ดัชนีMPIมิ.ย.ขยายตัวจากเดือนก่อน4.18%พุ่งขึ้น2เดือนติด
นายทองชัย  ชวลิตพิเชฐ  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ “สศอ.” เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมิถุนายน 2563 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 4.18%  โดยขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 รวมถึงอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิถุนายนขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ 55.21% จากเดิมที่ 52.34% บ่งบอกถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมิถุนายน 2563 หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.66% โดยยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัส “โควิด-19” (COVID-19) ที่กิจกรรมสำคัญทางเศรษฐกิจรวมทั้งกิจกรรมด้านการขนส่งทั่วโลกหยุดชะงักลง เศรษฐกิจทั่วโลกต้องชะลอตัว ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม  ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หดตัวลงเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.97%
              ทั้งนี้  พฤติกรรมการบริโภคในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมได้ส่งผลต่อความต้องการสินค้าคงทนลดลง ประชาชนชะลอการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง ทำให้อุตสาหกรรมหลักหดตัวลงและส่งผลลบต่อดัชนี MPI เดือนมิถุนายน 2563 ได้แก่ การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ น้ำมันปิโตรเลียม และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน แต่ทว่า ความต้องการในสินค้าจำพวกอุปโภคและบริโภคกลับขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวดีในเดือนมิถุนายน ได้แก่
อาหารสัตว์สำเร็จรูป ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.78% จากผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารปลาเป็นหลัก เนื่องจากความต้องการอาหารสัตว์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
              อาหารทะเลกระป๋อง ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30.46% โดยเฉพาะปลาทูน่ากระป๋อง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้เกิดความต้องการอาหารที่เก็บไว้ได้นานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
              ผลิตภัณฑ์นม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.74% จากผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มและนมผง เนื่องจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการทำโปรโมชั่นและเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์ โดยได้รับคำสั่งซื้อจากมาเลเซีย อินโดนีเซียและพม่าเพิ่มขึ้นหลังผู้ผลิตในมาเลเซียปิดโรงงานชั่วคราวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
              เครื่องใช้ในครัวเรือน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.74% จากผลิตภัณฑ์ตู้เย็น เตาอบไมโครเวฟ และกระติกน้ำร้อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นและให้มีความต้องการสินค้าในกลุ่มนี้มากขึ้น รวมถึงการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากการเริ่มเปิดประเทศของกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะตลาดหลักจากประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศในภูมิภาคเอเชียอย่างญี่ปุ่นและบังคลาเทศ
              เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมหลักมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร (หักน้ำตาล) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.30% อุตสาหกรรม ปิโตรเคมีขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.25% 
ขณะที่อุตสาหกรรมหลักอื่น ๆ ได้เริ่มกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้ง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่ 28.00% โดยตลาดในประเทศขยายตัว 43.50% และตลาดส่งออกขยายตัว 67.40% เนื่องจากในช่วงเดือนมิถุนายนผู้ประกอบการเริ่มกลับมาเปิดสายการผลิต ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศไทยที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว
              “รัฐบาลได้เตรียมดำเนินแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมถึงมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 และมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 6 ที่จะอนุญาตให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับต่างชาติ เช่น ชาวต่างชาติเข้ามาจัดแสดงสินค้าในราชอาณาจักร กองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติ กลุ่ม Medical and Wellness ฯลฯ โดยคาดว่าภาคการผลิตจะกลับมาผลิตได้เต็มกำลังอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวและแผนการดำเนินการให้เข้ากับพฤติกรรมการบริโภคในยุคชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่มีความต้องการในสินค้าอุปโภคและบริโภคเพิ่มขึ้น” 
อ่านต่อได้ที่:https://www.thansettakij.com/content/Macro_econ/443593?utm_source=sub_category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=industry

แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.