สภาอุตฯ ขึงเป้าผลิตรถยนต์ปี’63 ที่ 1.4 ล้านคัน หลังรัฐคลายล็กดาวน์-งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์-บิ๊ก มอเตอร์ เซล ช่วยกระตุ้นตลาด
สภาอุตฯ ขึงเป้าผลิตรถ - นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนส.ค. 2563 ผลิตได้ 117,253 คัน ซึ่งเป็นอีกครั้งที่การผลิตรถยนต์กลับมาผลิตได้เกินหนึ่งแสนคัน ลดลง 29.52% จากเดือนส.ค. 2562 จากการผลิตเพื่อส่งออก ผลิตได้ 51,441 คัน ลดลง 38.28% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศผลิตได้ 65,812 คัน ลดลง 20.73% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 31.25%
เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 2563) ผลิตได้ทั้งสิ้น 812,721 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 42.08% โดยเป็นการผลิตเพื่อส่งออกผลิตได้ 441,459 คัน ลดลง 39.01% และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศผลิตได้ 371,262 คัน ลดลง 45.35%
“ปีนี้ส.อ.ท. ยังคงเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในประเทศ จำนวน 1.4 ล้านคัน แบ่งเป็น การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 7 แสนคัน และการผลิตเพื่อส่งออก 7 แสนคัน ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลผ่อนคลายล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาล และงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ (Bangkok International Motor Show) เมื่อเดือนก.ค. 2563 ที่ผ่านมา และงานบิ๊ก มอเตอร์ เซล (BIG Motor Sale) ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งการออกรถยนต์รุ่นใหม่ช่วยกระตุ้นตลาด”
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนส.ค. 2563 อยู่ที่ 68,883 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.1% ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนส.ค. 2563 ส่งออกได้ 57,402 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29.61% โดยส่งออกลดลงทุกตลาด เนื่องจากยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าลดลงจากการระบาดของโควิด-19 และยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 34,628.99 ล้านบาท ลดลง 24.22%
“แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศและการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนส.ค. 2563 เทียบกับเดือนก่อนหน้าเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 16.09% และการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 15.81% ประกอบกับอัตราการลดลงของการส่งออกเดือนส.ค. 2563 ยังน้อยกว่าเดือนก.ค. 2563 ถือเป็นสัญญาณที่ดีหลังค่อยๆ ผ่อนคลายการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ”
อ่านต่อได้ที่:
https://bit.ly/3kR4EhG Khaosod Online
