นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานหอการค้าไทย ในฐานะประธานสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในขณะนี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากการย้ายฐานการผลิตจากจีน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามามาก เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามมีโนยายชัดเจนล่าสุดการประชุมของพรรคคอมมิวนิสต์ได้วางนโยบายด้านเศรษฐกิจ 5 ปี เน้นเรื่องอุตสาหกรรมไฮเทค อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพร้อมเปิดประเทศให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น มีการแก้ไขอุปสรรคที่เป็นปัญหาต่อการลงทุนทั้งกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆเพื่อเอื้อต่อการลงทุน รวมทั้งไฟเขียวให้แต่ละจังหวัดของประเทศมีการแข่งขันการพัฒนาเศรษฐกิจของตนเองได้และกระจายอำนาจให้แต่ละจังหวัด ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความสบายใจ
ส่วน
การเมืองในประเทศก็มีความต่อเนื่องไม่มีสะดุด ขณะที่การทำ
เอฟทีเอนั้นเวียดนามมี 17 ฉบับ ครอบคลุม 55 ประเทศ โดยเฉพาะการเข้าร่วมเป็นสมาชิกซีพีทีพีพี ที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ทั้งที่มีความพร้อมน้อยกว่าไทย รวมทั้งการทำเอฟทีเอกับสหภาพยุโรปหรืออียู ประกอบกับและอัตราแลกเปลี่ยนเงินดองในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาอ่อนค่า 4 % เทียบกับไทยที่แข็งค่าขึ้น 15% ซึ่งแตกต่างกันมาก แม้ว่าสหรัฐจะจับตาเวียดนามในฐานะเป็นประเทศที่มีการแทรกแซงค่าเงินก็ตาม รวมทั้งความพร้อมด้านแรงงานที่มีมาก ซึ่งเวียดนามไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเลย ผิดจากประเทศไทยที่ต้องการแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก
อ่านต่อได้ที่ :
http://bit.ly/3bf73kt
แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ