นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.64 - มี.ค.65) กนอ.มียอดขาย/เช่าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จำนวน 785.33 ไร่ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 31.70 โดยเป็นผลจากความเชื่อมั่นในโครงการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งทั้ง 4 โครงการมีความก้าวหน้าการก่อสร้างและส่งมอบพื้นที่โครงการต่อเนื่องชัดเจน รวมถึงการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ที่ประเทศไทยทำได้เป็นอย่างดี
ขณะที่แนวโน้มของเศรษฐกิจโลกก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จึงทำให้นักลงทุนตัดสินใจจอง/ชื้อ/เช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน และนิคมอุตสาหกรรมที่ กนอ.ดำเนินการเอง
โดยยอดการขาย/เช่านิคมฯ ในพื้นที่อีอีซี มีจำนวน 669.73 ไร่ และนอกพื้นที่อีอีซี จำนวน 115.60 ไร่ มีการแจ้งเริ่มประกอบกิจการ และใบขออนุญาตส่วนขยาย 40 ราย เกิดการจ้างงาน 17,905 คน มูลค่าการลงทุนรวม 6 เดือน 59,872 ล้านบาท
"ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกปรับตัวอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้เพิ่มขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเดินหน้าได้ รวมถึงการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ซึ่ง กนอ.เองมีการคาดการณ์ไว้ว่า ในปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสูงถึง 177,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่อีอีซีจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงตั้งเป้ายอดขาย/เช่า พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในปี 2565 ไว้ที่ ประมาณ 1,770 ไร่ ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา
อ่านต่อได้ที่ :https://www.ryt9.com/s/iq03/3318662