“ปลากระป๋อง”ดิ้นขอขึ้น 2 บาท ต้นทุน “เหล็ก-ขนส่ง” พุ่งไม่หยุด

11 พฤษภาคม 2565
“ปลากระป๋อง”ดิ้นขอขึ้น 2 บาท ต้นทุน “เหล็ก-ขนส่ง” พุ่งไม่หยุด

          อุตฯปลากระป๋องหมื่นล้านสะเทือน ต้นทุนการผลิต “ปลา-กระป๋อง-ขนส่ง” พุ่ง บาทอ่อนทุบซ้ำต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าแพง “ซูเปอร์ ซีเชฟ-โรซ่า-ปุ้มปุ้ย” ยื่นขอปรับราคา 2 บาท/กระป๋อง ตามรอย “ทียู” “ซีเล็ค” ขอขึ้น 5-7% สมาคมอาหารสำเร็จรูปชี้แนวโน้มต้นทุนสูงต่อเนื่อง “ผักกระป๋อง ปลากระป๋อง เครื่องปรุงรส”เริ่มเจรจาค้าปลีกขอปรับราคาขึ้นตาม

          ถึงวันนี้ อุตสาหกรรมปลากระป๋องที่มีมูลค่ารวมมากกว่า 9,000 ล้านบาท กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้งต้นทุนวัตถุดิบ ทั้งปลาแมคเคอเรลและปลาซาร์ดีน ที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ และแพ็กเกจจิ้ง โดยเฉพาะเหล็กที่ใช้ผลิตกระป๋องปรับสูงขึ้น รวมทั้งได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าเงินบาทอ่อนค่า และเนื่องจากปลากระป๋องเป็นสินค้าควบคุม ผู้ผลิตจึงยังไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้ และต้องรอการอนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน แต่จากปัญหาต้นทุนที่หนักขึ้น ทำให้หลาย ๆ รายหันไปใช้วิธีการปรับขึ้นราคาขายส่งด้วยรูปแบบต่าง ๆ แทนเพื่อคงมาร์จิ้นไว้

แจงต้นทุนขึ้นทุกอย่าง

          นายอมรพันธุ์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตปลากระป๋องแบรนด์ “ซูเปอร์ ซีเชฟ” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากต้นทุนการผลิตสินค้าทุกอย่างที่เพิ่มในรอบปีที่ผ่านมา อาทิ พลังงานทุกชนิด กระป๋อง แผ่นเหล็ก น้ำมันพืช ซอสมะเขือเทศ ปลา ค่าขนส่ง บรรจุภัณฑ์ทุกประเภท ที่ปรับขึ้นตั้งแต่ 20-50% ขณะที่ถ่านหินปรับขึ้นไป 100% ผู้ผลิตจึงมีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาอย่างน้อย 20% แต่เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคอ่อนแรงมากคงปรับขึ้นขนาดนั้นไม่ได้ แต่ควรให้ปลากระป๋องขึ้นราคากระป๋องละ 2 บาท

          หากเทียบต้นทุนเฉลี่ยการผลิตปลากระป๋อง ไตรมาส 1/2565 กับต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี 2564 เพิ่มขึ้นมาถึง 12% แยกเป็น ต้นทุนปลาซาร์ดีน 9% อัตราแลกเปลี่ยน 32-34 บาท ต้นทุนกระป๋อง 3.26-3.71 บาท หรือ 14% การนำเข้าซอสมะเขือเทศ 26% และค่าพลังงาน 100%

          การที่ต้นทุนสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี ทำให้กำไรต่อกระป๋องลดลง นี่ยังไม่รวมถึงผลกระทบของค่าบาทที่อ่อนตัวลงไปถึง 33-34 บาท และสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ คือ การปรับค่าแรงขั้นต่ำ และราคาเหล็กที่อาจปรับตัวขึ้นไปอีก ซึ่งต้องรอคณะกรรมการทุ่มตลาดและการอุดหนุนพิจารณาภายในเดือน พ.ค.นี้

อ่านต่อได้ที่ : https://www.prachachat.net/marketing/news-928204


แหล่งที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.