นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “Thailand’s Strategy : การค้าสู่ความยั่งยืนในเวทีโลก” ในงานสัมมนา ZERO CARBON วิกฤติ-โอกาสไทยในเวทีโลก จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (11 พ.ค.65)
ใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ภาคการส่งออกไทยยังเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยในปี 2564 แม้ว่าไทยจะเผชิญกับวิกฤติต่าง ๆ แต่การส่งออกยังขยายตัวถึง 17.1% สูงสุดในรอบ 11 ปี ทำเงินเข้าประเทศ 8.5 ล้านล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้าส่งออกขยายตัว 4% ซึ่ง 3 เดือนแรก ขยายตัว 15% นำเงินเข้าประเทศ 2.4 ล้านล้านบาท ดังนั้นคาดทั้งปีนี้ส่งออกไทยจะทำได้ที่ 9 ล้านล้านบาท โดยเดือนมีนาคมขยายตัว 20% เงินเข้าประเทศเดือนเดียว 9.2 แสนล้านบาทสูงสุดรอบ 30 ปี
อย่างไรก็ดี ถัดจากนี้การส่งออกไทยมีแนวโน้มจะเผชิญความยากลำบากมากขึ้น จากจะมีความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้นที่เราต้องพลิกให้เป็นโอกาสในอนาคตเกิดขึ้น เรื่องที่ 1 โลกจากนี้ไปจะไม่เหมือนเดิมจากมีการแบ่งขั้วทางการเมืองระหว่างประเทศ และการแบ่งขั้วทางการค้า ซึ่งการแบ่งขั้วทางการเมืองกับการค้า เศรษฐกิจจะถูกมัดรวมกันอย่างแยกกันไม่ออก โลกจะถูกบังคับแบ่งขั้ว แบ่งค่าย เลือกข้างมากขึ้น ทั้งในทางการเมือง เศรษฐกิจ
"ตรงนี้คือความยากในการทำการค้าถัดจากนี้ไปในอนาคต โลกจะไม่ใช่เฉพาะค่ายสหรัฐฯ กับจีนที่ทำสงครามการค้ากัน แต่จะมีรัสเซีย มีอินเดีย และประเทศอื่น ๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น เช่นจะมี Chindia หรือจีนบวกอินเดีย ที่มีจำนวนประชากร และขนาดเศรษฐกิจรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของโลกจะเข้ามีบทบาทสำคัญในทางเศรษฐกิจของเอเชียและโลกมากขึ้น"
ภูมิรัฐศาสตร์ตรงนี้ นักธุรกิจและภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะมองข้ามไม่ได้ ประเทศไทยจะต้องอยู่รอด และฝ่าวิกฤติการแบ่งขั้ว และแบ่งค่ายทางการเมือง เศรษฐกิจของโลกต่อไปให้ได้ นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย ไม่เช่นนั้นภาคส่งออกเราจะโตต่อไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดไทยต้องยืนให้ถูก ยืนให้เป็น อย่างน้อยต้องจับมือกับอาเซียนผนึกกำลังกันเพื่อให้มีอำนาจต่อรองเข้มแข็งขึ้นในเวทีการเมือง และการค้าโลก
อ่านต่อได้ที่ : https://www.thansettakij.com/economy/524870