จีนขย่มดีมานด์ใช้เหล็กตลาดโลกส่งแรงกระเพื่อมตลาดเหล็กเส้น (เหล็กก่อสร้าง) ในเมืองไทย ราคาหน้าโรงงานดีดขึ้นมาอยู่ที่ 26 บาท/กก. ดีเวลอปเปอร์เผยกระทบจิ๊บจ๊อย กางสูตรคำนวณบ้าน-คอนโดฯมีต้นทุนเหล็ก 3-5% ของราคาขายเท่านั้น “ศุภาลัย” แนะปี 2564 ยุคทองผู้บริโภคเลือกช็อปที่อยู่อาศัยต้นทุนเก่า RK คุมก่อสร้างตามกำลังซื้อยุคโควิด “กานดาฯ” โฟกัสกระแสเงินสด-เน้นบริหาร cash out รายจ่ายลงทุนต้องมีรายรับยอดขายมารองรับ บิ๊กรับเหมาอาคาร “พรีบิลท์” มองเทรนด์วัสดุก่อสร้าง-ราคาที่อยู่อาศัยทรงตัวยาวถึงปี 2567
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โควิดทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน แต่ในประเทศจีนเหมือนหนังคนละม้วนเพราะมีการประกาศว่ารัฐบาลสามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดได้แล้ว จากนั้นจึงเป็นช่วงเวลาของการพลิกฟื้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยการลงทุนภาครัฐของจีนกลายเป็นตัวกระตุ้นดีมานด์ใช้เหล็กและเป็นตัวจุดประกายภาวะราคาเหล็กแพงขึ้น ผลกระทบจากดีมานด์ใช้เหล็กของจีนที่มีต่อตลาดโลก ส่งแรงกระเพื่อมมาถึงประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ วัสดุเหล็กแบ่งเป็นเหล็กอุตสาหกรรมกับเหล็กก่อสร้าง ซึ่งเหล็กก่อสร้างมีผลกระทบจากการนำวัตถุดิบเศษเหล็กหรือ scrap มาผลิตเหล็กเส้น โดยราคาเหล็กตลาดโลกมีทิศทางขยับขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2564 ปัจจุบันราคาเศษเหล็กตลาดโลกอยู่ที่ 485 เหรียญ/ตัน สะท้อนออกมาเป็นราคาเหล็กเส้นหน้าโรงงาน ณ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม 2564 อยู่ที่ 26 บาท/กก. จนกระทั่ง 7 สมาคมผู้ผลิตเหล็กในประเทศไทยยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล
จุดโฟกัสของตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งมีการใช้เหล็กเส้นเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างหลัก ในภาวะราคาเหล็กขาขึ้นทำให้เกิดคำถามว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาที่อยู่อาศัยแพงขึ้นด้วยหรือไม่
อ่านต่อได้ที่ https://bit.ly/3ibbYGZ