JFE Steel Corp. ของญี่ปุ่น ได้รีสตาร์ทเตาหลอมเหล็ก No. 6 ใหม่อีกครั้งที่โรงงาน East Japan Works ในเมืองชิบะ เมื่อวันที่ 13 มกราคม หลังจากเสร็จสิ้นงานติดตั้งใหม่ ผู้ผลิตเหล็กรายนี้กล่าวเมื่อวันที่ 16 มกราคม

          งานการปรับปรุงซึ่งเริ่มในเดือนกันยายน 2022 ถึงมกราคม 2023 และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 43 พันล้านเยน (336.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยที่ปริมาตรของเตาไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 5,153 ลบ.ม.

          JFE กล่าวว่า "การปรับปรุงใหม่ช่วยให้การทำงานของเตามีความเสถียร โดยการนำเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ข้อมูลมาใช้เพื่อปรับปรุงความแม่นยำของทั้งการวางตำแหน่งการชาร์จวัสดุ และการควบคุมความร้อนของเตา" JFE กล่าว

          JFE วางแผนที่จะสร้างเตาอาร์คไฟฟ้า (electric arc furnace) นำร่องในปี 2024 ถึง 2025 ที่เมืองชิบะ โดยเตา EAF นำร่องนี้จะช่วย JFE ในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการหลอมที่มีประสิทธิภาพสูงและการผลิตเหล็กกล้าเกรดสูงผ่าน เตา EAF โดยใช้เศษเหล็กและเหล็ก direct reduced iron ดังนั้นจะส่งผลให้มีการสร้าง EAF ขนาดใหญ่ในช่วงปี 2027 ถึง 2030

          JFE คาดว่าจะผลิตเหล็กดิบ (crude steel) ได้ประมาณ 25 ล้านตัน ลดลงต่ำจากที่ 26 ล้านตันที่คาดการณ์ไว้ในเดือนสิงหาคม 2022 เล็กน้อย เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ

          ความต้องการใช้เหล็กในประเทศคาดว่าจะลดลงในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2023 ข้อมูลจาก Ministry of Economy, Trade and Industry เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ได้คาดการณ์ว่าจะลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะที่ 19.98 ล้านตัน ขณะที่การส่งออกเหล็กคาดว่าจะลดลง ลดลง 7.4% มีปริมาณที่ 6.19 ล้านตัน