ค้าไทย-ญี่ปุ่นพุ่ง 1.9 ล้านล้าน “เฉลิมชัย”สั่งลุยส่งออกผลไม้

20 มกราคม 2566
ค้าไทย-ญี่ปุ่นพุ่ง 1.9 ล้านล้าน “เฉลิมชัย”สั่งลุยส่งออกผลไม้

          ค้าไทย-ญี่ปุ่นโตต่อเนื่อง ยอด 11 เดือนแรกโต 1.91 ล้านล้านบาท รถยนต์และชิ้นส่วน-ไก่แปรรูป-เคมีภัณฑ์นำ 3 อันดับแรก “เฉลิมชัย”รมว. เกษตรฯรุดหารือผู้บริหารตลาดค้าส่ง “โทโยสุ”ใจกลางกรุงโตเกียว ดันส่งออกผลไม้-พืชผักไทย

          ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อกสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร เผยการค้าระหว่างประเทศของไทยกับญี่ปุ่น ช่วง 11 เดือนแรกปี 2565 มีมูลค่า 1.91 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.50% โดยไทยส่งออก 7.19 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.11% และนำเข้า 1.12 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.43%โดยญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยรองจากอาเซียน จีน และสหรัฐอเมริกา

          สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยไปญี่ปุ่น ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สัดส่วน 7.45% ของการส่งออก, ไก่แปรรูป สัดส่วน 5.96% , เคมีภัณฑ์ สัดส่วน 4.19% ,เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สัดส่วน 4.10% และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สัดส่วน 3.93%

          ขณะที่ในส่วนสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป  เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญไปญี่ปุ่น โดยมีผลิตภัณฑ์ยางเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 16 มูลค่า 17,367.88 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.20% ของมูลค่าส่งออก และยางพารา เป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 18 คิดเป็นสัดส่วน 1.76%  ทั้งนี้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลไทย และเป็นตลาดส่งออกที่ผู้ประกอบการไทยยังให้ความสนใจต่อเนื่อง

          ล่าสุด ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยระหว่างเดินทางเยือนญี่ปุ่นว่า ได้หารือกับ M.Tohiyuki Suzuki CEO Tokyo City Seika Co. Ltd. ผู้บริหารตลาด Toyosu (โทโยสุ) ตลาดปลาที่มีชื่อเสียงใจกลางกรุงโตเกียว ที่ย้ายมาจากสึคิจิ ทั้งนี้เพื่อขยายความร่วมมือในการกระกระจายสินค้าเกษตรไทย ในกลุ่มผลไม้และพืชผัก สู่ตลาดโทโยสุในอนาคต

          ในการหารือร่วมกันในครั้งนี้  ดร.เฉลิมชัยระบุว่า ถือเป็นโอกาสอันดีของไทย ในการขยายฐานการตลาดสินค้าเกษตรไทยสู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่ประชาชนให้ความสำคัญกับสุขภาพและการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัย

          สำหรับสินค้าเกษตรไทยถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในญี่ปุ่น โดยเฉพาะผลไม้ที่ได้รับความนิยม เช่น ทุเรียน มะม่วง กล้วย และสับปะรด โดยทางผู้บริหารตลาด โทโยสุ ได้ตอบรับและพร้อมขยายความร่วมมือกับประเทศไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทั้งสองประเทศ และสร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าเกษตรร่วมกัน

          อนึ่ง ตลาดโทโยสุของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางตลาดปลาและผลิตภัณฑ์ทางทะเล นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีกลุ่มสินค้าผัก ผลไม้ รวมทั้งของชำต่างๆ โดยเป็นตลาดค้าส่ง สำหรับพ่อค้าคนกลาง และยังเป็นศูนย์กลางพบปะระหว่างผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นและต่างประเทศ

          จุดเด่นของตลาดโทโยสุ เน้นให้ความสําคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหาร มีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสินค้าแต่ละชนิด โดยการออกแบบโครงสร้างอาคารให้ง่ายต่อการรักษาความสะอาด มีการรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานโดยการใช้หลอดไฟ LED และพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) และจัดให้มีพื้นที่สีเขียว มากกว่า 30% ของพื้นที่ตลาด และยังจัดเส้นทางคมนาคมเพื่ออำนวยความสะดวก เชื่อมโยงในการกระจายสินค้าไปยังตลาดอื่น ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น

แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.