พณ.ชี้โลกแบ่งขั้วกระทบการค้า แนะปรับตัวตอบโจทย์

23 มกราคม 2566
พณ.ชี้โลกแบ่งขั้วกระทบการค้า แนะปรับตัวตอบโจทย์

          พณ.ชี้ไทยต้องรักษาสมดุลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสำคัญ หลังความขัดแย้งโลกแบ่งขั้วกระทบทางการค้า แนะเอกชนเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมสอดรับทิศทางตลาดโลก เน้นพึ่งพาตลาดใหม่

          วันนี้ (23 ม.ค. 66) ในงานสัมมนาของ กรุงเทพธุรกิจ ในหัวข้อ “GEOPOLITICS The Big Challenge of Business โลกแบ่งขั้วธุรกิจพลิกเกม” บนการเจาะลีกประเด็นการค้าระหว่างประเทศ ที่ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายในโลกปัจจุบัน ท่ามกลางความขัดแย้งและการลดการขาดดุลการค้า ของประเทศมหาอำนาจ ทำให้ในรอบหลายปีที่ผ่านมามีการดำเนินนโยบาย ที่เน้นการผลิตและการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลักอย่างเห็นได้ชัด

          นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในหัวข้อ “ความท้าทายเศรษฐกิจ การค้าไทยท่ามกลางโลกแบ่งขั้ว” ว่า ยุคที่โลกแบ่งขั้วมีความท้าทายทั้งภาครัฐและเอกชน โดยประเทศไทยต้องปรับตัวในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างสมดุล โดยการปรับจุดยืนของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานให้มีความยืดหยุ่น เพื่อเตรียมความพร้อม และแสวงหาโอกาสรองรับจากการแบ่งขั้วของห่วงโซ่อุปทาน ของเทคโนโลยีที่สำคัญของประเทศอย่างสหรัฐกับจีน ในการส่งเสริมการวิจัยพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทยให้สอดรับกับเป้าหมายสหรัฐฯ และจีนโดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า

          ควบคู่กับการหาตลาดและคู่ค้าใหม่ ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์วางนโยบายในการดำเนินการด้านนี้ เพื่อกระจายการค้า ลดการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งมากจนเกินไป โดยเร่งหาประเทศคู่ค้าใหม่ในตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา

          รวมทั้งการพึ่งพาการรวมกลุ่มในอาเซียนให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองทางการค้าบนเวทีโลก รวมทั้งการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก FTA ให้มากขึ้น และประเทศไทยจะต้องใช้ประโยชน์จากภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบ จากการมีที่ตั้งอยู่ตรงกลางของอาเซียนในการเชื่อมต่อทางการค้า ทั้งทางบก และทางน้ำ กับประเทศมหาอำนาจอย่างจีน อาทิ การเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงของจีนกับลาว เชื่อมมายังไทย

          ขณะที่ภาคเอกชนควรเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งในด้านสินค้าและบุคลากรให้มีคุณภาพเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ควบคู่การวิจัย และพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ควบคู่การเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน หรือคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ของทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

แหล่งที่มา: ฐานเศรษฐกิจ


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.