Nippon Steel ลงนาม MOU กับ Mitsubishi และ ExxonMobil เพื่อพัฒนา CCS ที่โรงงานเหล็กในญี่ปุ่น

31 มกราคม 2566
Nippon Steel ลงนาม MOU กับ Mitsubishi และ ExxonMobil เพื่อพัฒนา CCS ที่โรงงานเหล็กในญี่ปุ่น

          Nippon Steel ของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ว่า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Mitsubishi Corp. และ ExxonMobil Asia Pacific เพื่อดักจับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (capture carbon dioxide emissions) จากโรงงานเหล็กในญี่ปุ่น

          ทั้งสามบริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง "เพื่อร่วมกันศึกษาการดักจับและกักเก็บคาร์บอน และการจัดตั้งห่วงโซ่ CCS ที่มีศักยภาพ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Nippon Steel กล่าวในแถลงการณ์

          บันทึกความเข้าใจยังเรียกร้องให้มีการประเมินโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับระบบ CCS และโอกาสในการจัดเก็บในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

          Nippon Steel กล่าวว่า "นี่เป็นงานวิจัยชิ้นแรกในการพัฒนาห่วงโซ่มูลค่าสำหรับการดักจับคาร์บอนในญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายที่จะจัดเก็บที่ประเทศอื่นในภูมิภาคนี้"

          MOU เดินหน้าเพื่อแผนของผู้ผลิตเหล็กที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 โดย Nippon Steel ตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อย CO2 จาก 102 ล้านตัน/ปี เป็น 70 ล้านตัน/ปี ในปี 2030 และเป็นศูนย์ในปี 2050

          CCS ร่วมกับการดักจับ และกักเก็บคาร์บอน หรือ CCUS รวมถึงเตาอาร์คไฟฟ้า (electric arc furnaces) ขนาดใหญ่ และการผลิตเหล็กจากไฮโดรเจนเป็นช่องทางหนึ่งที่ Nippon Steel จะสำรวจเพื่อให้เป็น carbon-neutral

          โดยมีเป้าหมายที่จะจัดตั้ง EAF ขนาดใหญ่ภายในปี 2030 ตามผลการวิจัยที่ได้รับ จาก EAF นำร่อง ขนาด 10 ตัน ที่จะติดตั้งที่ศูนย์วิจัยและพัฒนา Hasaki ที่เมือง Kamisu จังหวัด Ibaraki ในปี 2024

          นิปปอนสตีลยังคาดว่าจะใช้จ่ายเงิน 500 พันล้านเยน (3.87 พันล้านดอลลาร์) ในการวิจัยและพัฒนา และ 4 ล้านล้าน - 5 ล้านล้านเยน สำหรับการใช้จ่ายด้านทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย carbon-neutral

          CCUS จะช่วยลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมเหล็กและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในเอเชียแปซิฟิก เช่น การใช้ CO2-to-methanol ในเชิงพาณิชย์ Nippon Steel กล่าว


แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.