Nippon Steel ของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ว่า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Mitsubishi Corp. และ ExxonMobil Asia Pacific เพื่อดักจับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (capture carbon dioxide emissions) จากโรงงานเหล็กในญี่ปุ่น
ทั้งสามบริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง "เพื่อร่วมกันศึกษาการดักจับและกักเก็บคาร์บอน และการจัดตั้งห่วงโซ่ CCS ที่มีศักยภาพ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Nippon Steel กล่าวในแถลงการณ์
บันทึกความเข้าใจยังเรียกร้องให้มีการประเมินโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับระบบ CCS และโอกาสในการจัดเก็บในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
Nippon Steel กล่าวว่า "นี่เป็นงานวิจัยชิ้นแรกในการพัฒนาห่วงโซ่มูลค่าสำหรับการดักจับคาร์บอนในญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายที่จะจัดเก็บที่ประเทศอื่นในภูมิภาคนี้"
MOU เดินหน้าเพื่อแผนของผู้ผลิตเหล็กที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 โดย Nippon Steel ตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อย CO2 จาก 102 ล้านตัน/ปี เป็น 70 ล้านตัน/ปี ในปี 2030 และเป็นศูนย์ในปี 2050
CCS ร่วมกับการดักจับ และกักเก็บคาร์บอน หรือ CCUS รวมถึงเตาอาร์คไฟฟ้า (electric arc furnaces) ขนาดใหญ่ และการผลิตเหล็กจากไฮโดรเจนเป็นช่องทางหนึ่งที่ Nippon Steel จะสำรวจเพื่อให้เป็น carbon-neutral
โดยมีเป้าหมายที่จะจัดตั้ง EAF ขนาดใหญ่ภายในปี 2030 ตามผลการวิจัยที่ได้รับ จาก EAF นำร่อง ขนาด 10 ตัน ที่จะติดตั้งที่ศูนย์วิจัยและพัฒนา Hasaki ที่เมือง Kamisu จังหวัด Ibaraki ในปี 2024
นิปปอนสตีลยังคาดว่าจะใช้จ่ายเงิน 500 พันล้านเยน (3.87 พันล้านดอลลาร์) ในการวิจัยและพัฒนา และ 4 ล้านล้าน - 5 ล้านล้านเยน สำหรับการใช้จ่ายด้านทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย carbon-neutral
CCUS จะช่วยลดคาร์บอนในอุตสาหกรรมเหล็กและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในเอเชียแปซิฟิก เช่น การใช้ CO2-to-methanol ในเชิงพาณิชย์ Nippon Steel กล่าว