เหล็กจีนมีการส่งสัญญาณถึงปริมาณการผลิตที่เกินความต้องการ

08 ตุลาคม 2562
เหล็กจีนมีการส่งสัญญาณถึงปริมาณการผลิตที่เกินความต้องการ

การผลิตเกินความต้องการค่อยๆปรากฏขึ้น ทั้งที่ ทางการมีการสั่งลดกำลังการผลิต เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ในเซี่ยงไฮ้ – ผู้ผลิตเหล็กในจีนกำลังมีการเพิ่มการผลิตเหล็กอย่างเป็นประวัติการณ์ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจีนได้สั่งการให้มีการลดกำลังการผลิต ซึ่งการที่ปริมาณเหล็กที่มากขึ้นนี้อาจล้นตลาดข้ามพรมแดนไปยังประเทศอื่นได้อีกครั้งหนึ่ง

ท่ามกลางความวิตกกังวลของทางการ ผู้จัดการทั่วไปของโรงงานเหล็กในเมืองถังซาน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมืองปักกิ่ง ได้ถูกคุมตัวไว้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้

เจ้าหน้าที่เมืองถังชานได้แจ้งบริษัทถังยินสตีล (Tangyin Steel) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตเหล็กรายใหญ่อย่าง HBIS Group ที่ถูกสั่งให้ลดกำลังการผลิตเหลือครึ่งหนึ่ง ท่ามกลางความกังวลเรื่องคุณภาพของอากาศ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เพิกเฉยต่อคำแจ้งของเจ้าหน้าที่ และยังคงเพิ่มการผลิตต่อไป

แหล่งข่าวกล่าวว่า “ทางการซึ่งไร้หวังที่จะจำกัดการผลิต ซึ่งอาจจะดำเนินการลงโทษอย่างรุนแรง เพื่อเป็นการเตือนผู้ผลิตรายอื่น”

บริษัท ถังยินสตีล ได้ทำยินยอมทำตามคำสั่งการของทางการ  โดยหลังจากการจับกุมผู้จัดการแล้ว ป้ายดิจิตัลภายนอกทางเข้าโรงงานเหล็กได้แสดงคำว่า “เตาถลุง 2 หยุดชั่วคราว”

แหล่งข่าววงในตลาดเหล็กรายหนึ่งกล่าวว่า ในขณะที่ทางการจีน อาจแสดงถึงระดับความจริงจังของตนที่ทางการได้ติดตามผู้ผลิตรายใหญ่ แต่ผู้ผลิตรายเล็กและรายกลางแทบไม่มีความความพยายามใดๆเลยที่จะปฏิบัติตามการลดการผลิตเหล็ก

ประเทศจีน ผลิตเหล็กดิบ 577 ล้านตัน ในระยะ 7 เดือนแรกของปีนี้  โดยปริมาณการผลิตสูงสุดจะก้าวสู่ปีละ 1 พันล้านตัน

การที่นโยบายภาครัฐดำเนินการเช่นนี้ เป็นความพยายามที่จะทำให้มีการฟื้นตัวของราคาเหล็ก

ราคาเหล็กที่ตกต่ำลงจนกระทั่งประมาณ ปี 2015 นั้นเป็นเหตุทำให้เกิดความกังวลในอุตสาหกรรมเหล็กโลก รัฐบาลจีนเริ่มจัดการเกี่ยวกับกำลังการผลิตเมื่อประมาณปี 2016 โดยมีการสั่งลดกำลังการผลิตออกประมาณ 150 ล้านตัน ภายในปี 2018  นอกจากนั้น ทางการจีนยังได้ดำเนินการลงโทษโรงงานที่ผลิตเหล็กคุณภาพต่ำ (ditiaogang) ที่ผลิตจากเศษเหล็ก  Ditiaogang เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นตัวเลขการผลิตจึงไม่ปรากฏในสถิติของทางการ และทำให้ราคาตลาดบิดเบือน

ราคาเหล็กได้ฟื้นตัวในปี 2017 แต่การผลิตเหล็กดิบ ซึ่งถูกจำกัดไว้ที่ 800 ล้านตันจนกระทั่งปี 2016 ยังคงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบัน ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนอยู่ที่ประมาณ 3,800 หยวนต่อตัน (535 เหรียญสหรัฐอเมริกา) ซึ่งยังคงมากกว่า 2,000 หยวนในปี 2015 แต่ราคายังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง

ความต้องการในประเทศจีนนั้นยังคงลดลงเรื่อยๆ ยอดขายรถยนต์ใหม่พลาดไปจากตัวเลขปีที่แล้วเป็นระยะเวลาถึง 14 เดือนติดต่อกันจนถึงเดือนสิงหาคม เนื่องจากสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกาทำให้ความต้องการของผู้บริโภคจีนลดลง รวมทั้งยอดขายเครื่องมือเครื่องใช้ก็ลดลงไปด้วย

รัฐบาลจีนยังคงมีการใช้จ่ายสำหรับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมกระตุ้นการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายไม่คืบหน้าตามแผน เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นมีหนี้สินสูง

ในขณะที่ความต้องการลดลง ราคาแร่เหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์เหล็กได้ปรับเพิ่มขึ้น  และเป็นสาเหตุให้เบาชาน ไออ้อน แอนด์ สตีล (Baoshan Iron & Steel) และอีก 4 บริษัทใหญ่จะมีกำไรลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี

การผลิตเหล็ก Ditiaogang มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น  แหล่งข่าวกล่าวว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนมีความยืดเยื้อ และเราไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่ตลาดจะฟื้นตัว

ปัจจุบัน รัฐบาลได้มีความกังวลอีกเรื่องหนึ่งในช่วงเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตเหล็กจีนปิดเตาถลุงที่ล้าสมัยเพื่อตัดกำลังการผลิตส่วนเกินและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม  ผู้ผลิตเหล็กจีนยังสร้างเตาถลุงใหม่ที่มีกำลังการผลิตน้อยลงอีกด้วย

เตาถลุงเกือบ 70% ของเตาถลุงทั้งหมด จะสามารถใช้งานได้ระหว่างปีนี้และปีหน้า กำลังการผลิตที่ทำได้เพิ่มเติมจะเท่ากับประมาณ 61 ล้านตันในปี 2019 และ 62 ล้านตันในปี 2020

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับผู้ผลิตเหล็กของญี่ปุ่นรายหนึ่งกล่าว “กำลังการผลิตที่ลดลง แต่เหมือนว่าเตาถลุงใหม่สามารถทำการผลิตที่กำลังการผลิตเต็มที่ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่การผลิตจริงจะเพิ่มขึ้น”

กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนกล่าวว่า กระทรวงจะเพิ่มความเข้มข้นของการดูแลเพื่อป้องการการผลิตส่วนเกิน แต่การผลิตที่เพิ่มขึ้นมากในเร็วๆนี้ยังคงมีต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว  และมันไม่ชัดเจนว่าการจำกัดการผลิตจะมีประสิทธิภาพอย่างไร  ดังนั้น อุตสาหกรรมเหล็กโลกยังคงมีความระมัดระวังในช่วงที่ราคาเหล็กลดลง ที่มีสาเหตุมาจากจีน

เหล็กส่วนเกินจากจีนอาจเข้าไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเป็นการสร้างความกดดันให้แก่ตลาดเอเชียทั้งหมด ทั้งที่มีการปกป้องทางการค้า ราคาเหล็กในสหรัฐอเมริกาลดลงเนื่องจากความต้องการมีน้อย  ดังนั้น จึงมีความกังวลว่าความต้องการอาจน้อยลงทั่วทั้งโลก

ราคาแร่เหล็กลดลงตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ แต่ถ้าการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีน ผู้ผลิตเหล็กอาจเผชิญกับราคาวัสดุที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ราคาเหล็กยังคงตกต่ำอยู่

“ผลิตภัณฑ์หลายประเภทกำลังมุ่งส่งออก และนั่นจะกระทบราคาวัสดุเหล็กอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นาย โยชิฮิสะ คิตาโน่ ประธาน Japan Iron and Steel Federation และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ JFE Steel กล่าว

ที่มา : https://asia.nikkei.com/Business/Business-trends/China-steel-sector-flashes-signs-of-another-glut


แหล่งที่มา : asia.nikkei.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.