รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จีนกำลังเจอมรสุมในตลาดตะวันตก ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) กำลังสอบสวนการอุดหนุนราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ส่งเข้าไปถล่มตลาดยุโรปและกำลังประกาศอัตราภาษีใหม่ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ราว ๆ 30% ทางฝั่งสหรัฐซึ่งเป็นคู่แข่งกันโดยตรงนั้นโหดยิ่งกว่า โดยมีข่าวออกมาว่าสหรัฐจะขึ้นภาษีอีวีจีนถึงอัตรา 100%
กระแสข่าวนี้มาจากการรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส (Financial Times) เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2024 ซึ่งอ้างอิงคำบอกเล่าของแหล่งข่าวที่ทราบเรื่องนี้ว่า สหรัฐอเมริกาเตรียมเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีนในอัตรา 100% จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ในอัตรา 25%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ของสหรัฐในการปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศสหรัฐ จากการแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีน
แหล่งข่าวของไฟแนนเชียลไทม์สคาดว่าฝ่ายบริหารของไบเดนจะประกาศอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความเคลื่อนไหวและการประกาศอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับพลังงานสะอาดในวันอังคารที่ 14 พฤษภาคมนี้
การจัดเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้น ว่าจีนอาจทำให้ตลาดสหรัฐเต็มไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ซึ่งคุกคามอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้ดำเนินการหลายอย่างในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นการแสดงออกว่าจะปกป้องการจ้างงานในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ เพื่อโน้มน้าวใจชาวอเมริกันที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานใน Swing Sate หรือรัฐที่พรรคการเมืองสองพรรคได้คะแนนสูสีกัน
ฝ่ายบริหารของไบเดนใช้เวลา 3 ปีในการทบทวนอัตราภาษีที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ใช้กับสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้าที่ทรัมป์เริ่มดำเนินการในปี 2018
เมื่อเดือนที่แล้ว ในระหว่างการเยือนเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นหนึ่งใน Swing State ไบเดนกล่าวว่าเขาต้องการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของจีนเพิ่มเป็น 3 เท่า นอกจากนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative : USTR) ยังเปิดการสอบสวนการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในอุตสาหกรรมการต่อเรือของจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วย หลังจากได้รับคำร้องจากสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐ (United Steelworkers)
แม้ว่าไบเดนจะขึ้นภาษีโดยหวังผลทางการเมืองในประเทศ แต่การตัดสินใจเพิ่มภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนก็เกิดขึ้นในขณะที่ฝ่ายบริหารมีความกังวลเป็นพิเศษว่าอุตสาหกรรมสีเขียวของจีน รวมถึงการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ กำลังนำหน้าสหรัฐไปไกลด้วย จึงเป็นสองแรงขับเคลื่อนบวกกันให้ฝ่ายบริการของไบเดนมองถึงการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเป็น 4 เท่าของอัตราเดิม
