สงครามการค้ารอบใหม่! 'สหรัฐ' ประกาศตั้งกำแพงภาษี 'จีน' 6.6 แสนล้าน

14 พฤษภาคม 2567
สงครามการค้ารอบใหม่! 'สหรัฐ' ประกาศตั้งกำแพงภาษี 'จีน' 6.6 แสนล้าน

'สหรัฐ' ประกาศมาตรการขึ้นภาษีสกัดสินค้าจีนทะลัก 'EV' เจอขึ้นภาษี 4 เท่าเป็น 100% ด้านภาษีโซลาร์เซลล์พุ่งเป็นสองเท่าแตะ 50% ทยอยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีนี้ ด้าน 'จีน' ประณามเป็นการกีดกันทางการค้า

ทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงในวันนี้ (14 พ.ค.) ว่า สหรัฐจะใช้มาตรการทางภาษีรับมือกับสินค้าราคาถูกจากจีนที่ทะลักเข้ามาในประเทศ โดยกำแพงภาษีรอบใหม่นี้จะครอบคลุมสินค้าจีนจีนคิดเป็นมูลค่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 6.6 แสนล้านบาท) และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีนี้ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม

สำหรับสินค้าจีนที่เข้าข่ายถูกขึ้นภาษีในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สหรัฐเคยแสดงความกังวล อาทิ

รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) - ขึ้นภาษีจากเดิม 27.5% เป็น 102.5%

แผงโซลาร์ - ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50%

เหล็กและอะลูมิเนียม (บางประเภท) - ขึ้นภาษีจากเดิม 0% หรือ 7.5%  เป็น 25%

แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (EV) - ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25%

แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (non-EV) - ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% (เริ่ม 2569)

เซมิคอนดักเตอร์ - ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50% (เริ่ม 2568)

กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยา - ขึ้นภาษีเป็น 50%

อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) - ขึ้นภาษีจากเดิม 0% หรือ 7.5% เป็น 25%

ถุงมือยาง - ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% (เริ่ม 2569)

นอกจากสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อีวี แบตเตอรี่ แผงโซลาร์ เหล็กและอะลูมิเนียมตามที่มีรายงานอ้างแหล่งข่าวไปก่อนหน้านี้ ยังมี "สินค้าในกลุ่มการแพทย์" ที่ถูกสหรัฐตั้งกำแพงภาษีเป็นครั้งแรกอีกด้วย เช่น ไซริงค์และเข็มฉีดยา หน้ากากอนามัย และถุงมือยางทางการแพทย์

สินค้าส่วนใหญ่ที่ถูกขึ้นภาษีในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2567 นี้เป็นต้นไป แต่สินค้าบางรายการ เช่น แบตเตอรี่ และกราไฟท์ธรรมชาติ จะมีระยะปรับตัวโดยทยอยมีผลบังคับใช้ในภายหลัง โดยส่วนหนึ่งเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐมีเวลาปรับตัวขยายการผลิตเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ

ในขณะที่กำแพงภาษีสินค้าจีนชุดเดิมที่ถูกประกาศใช้ตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีการบังคับใช้ต่อไปตามเดิม โดยไม่มีการเพิ่มหรือลดอัตราภาษีในส่วนนี้

ประเด็นจีนร้อนรับการเลือกตั้งปธน.สหรัฐ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การประกาศขึ้นภาษีสกัดสินค้าจีนครั้งนี้ยังมีขึ้นในขณะที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 ใกล้มาถึงในเดือน พ.ย.นี้ โดยไบเดนพยายามที่จะงัดข้อกับ "จีน" พร้อมกับทำให้ "แตกต่าง" ไปจากยุคของทรัมป์ ที่ถูกมองว่าใช้การตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนครั้งใหญ่แบบหว่านแหมูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์

รายงานระบุว่า รัฐบาลไบเดนต้องระมัดระวังในการรักษาสมดุลระหว่างการขึ้นภาษีเพื่อสกัดการล้นทะลักของสินค้าราคาถูกจากจีน แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องระวังไม่ให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่มากเกินไปด้วย และยังต้องระมัดระวังไม่ให้สถานการณ์บานปลายจนกระทบต่อความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จีนอาจดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการค้าตามมา

จีนประณามสหรัฐกีดกันทางการค้า

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีนได้แถลงประณามกรณีสหรัฐ สร้างข้อวิตกกังวลด้านกำลังการผลิตส่วนเกิน และความหวาดกลัวด้านความมั่นคงของชาติเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของจีนอย่างเกินจริง ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาขั้นพื้นฐานของลัทธิกีดกันทางการค้า

นายฟู่ปิ่งเฟิง รองประธานกรรมการบริหารและเลขานุการสมาคมฯ เน้นย้ำว่าพฤติกรรมกีดกันทางการค้าและแยกตัวโดดเดี่ยวดังกล่าวมิควรเป็นแกนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ โดยฟู่กล่าวคำข้างต้นหลังจากมีรายงานข่าวสหรัฐวางแผนจัดเก็บภาษีศุลกากรแบบใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

ผู้แทนอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน กล่าวด้วยว่า วิสัยทัศน์ระดับโลกและกรอบความคิดเปิดกว้างเป็นสิ่งจำเป็นต่อการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ที่แข็งแกร่ง พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของจีนในการเปิดกว้างระดับสูงเพื่อเพิ่มพูนโอกาสในตลาดแก่กลุ่มบริษัทยานยนต์ทั่วโลก

ที่มา : CNBC, Bloomberg, Xinhua


แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.