คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือนมิ.ย. “บริโภค-ลงทุน” หดตัว

30 กรกฎาคม 2567
คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือนมิ.ย. “บริโภค-ลงทุน” หดตัว

คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือนมิ.ย.67 “บริโภค-ลงทุน” หดตัวจากเดือนก่อนหน้า ฝั่งท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง พร้อมจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมิถุนายน 2567 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การบริโภคสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชนยังคงไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศ และปริมาณการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมิถุนายน 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -1.5 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -1.8 ยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -14.7 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -4.7

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนมิถุนายน 2567 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 58.9 จากระดับ 60.5 ในเดือนก่อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น  อย่างไรก็ดี รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนมิถุนายน 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 5.9

ด้านเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากสะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนมิถุนายน 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -3.2 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -7.7

ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -25.3 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -7.5

สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.5 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -0.5

ขณะที่ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ในเดือนมิถุนายน 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -18.7 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -5.8

มูลค่าการส่งออกสินค้าลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมิถุนายน 2567 อยู่ที่ 24,796.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -0.3 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ

และยุทธปัจจัย พบว่า หดตัวที่ร้อยละ -1.6 ตามการลดลงของสินค้าน้ำตาลทราย ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง และหมวดเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ โดยหดตัวที่ร้อยละ -51.9 -37.8 และ -24.2 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี สินค้าข้าว ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวที่ร้อยละ 96.6 28.8 22.0 และ 20.1 ตามลำดับ

นายพรชัย กล่าวว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน โดยเฉพาะบริการด้านการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมิถุนายน 2567 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.74 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 22.3 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.9

“ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และ สปป. ลาว ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนมิถุนายน 2567 จำนวน 21.1 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 10.2 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 5.6”

ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายน 2567 อยู่ที่ร้อยละ 0.62 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.36 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ร้อยละ 64.3 ต่อ GDP1 ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 224.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.