ปอร์เช่ (Porsche) ผสานความร่วมมือกับหน่วยงาน H2 Green Steel เพื่อการพัฒนาเหล็กมลพิษต่ำสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต

13 พฤศจิกายน 2566
ปอร์เช่ (Porsche) ผสานความร่วมมือกับหน่วยงาน H2 Green Steel เพื่อการพัฒนาเหล็กมลพิษต่ำสำหรับใช้ในกระบวนการผลิต

          ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) และ H2 Green Steel บริษัทสตาร์ทอัพด้านพลังงานสัญชาติสวีเดน ได้ลงนามในข้อตกลงสำหรับการจัดหาเหล็กที่มาจากกระบวนการผลิตแบบลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีจุดมุ่งหมายคือการปรับปรุงสมดุลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของรถยนต์ปอร์เช่ (Porsche) ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้เหล็กที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

          H2 Green Steel วางแผนที่จะผลิตเหล็กโดยใช้พลังงานหมุนเวียนในเมืองโบเดน (Borden) ประเทศสวีเดน ซึ่งริเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2025 เป็นต้นมา และนับจากปี 2026 เป็นต้นไป ปอร์เช่ และ แผนกผู้จัดหาวัสดุที่ใช้ในการผลิตหลากหลายประเภทของปอร์เช่ จะได้รับการสนับสนุนเรื่องการจัดสรรเหล็กที่ปล่อยมลพิษต่ำโดยบริษัท H2 Green Steel โดยวัสดุนี้ เป็นหนึ่งในวัสดุที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำที่สุดในตลาด H2 Green Steel ซึ่งใช้นวัตกรรมใหม่ของไฮโดรเจนและไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต ส่งผลให้เหล็กมีคุณภาพเกือบปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเปรียบเทียบจากกระบวนการผลิตของ H2 Green Steel สามารถลดได้ถึง 95% เมื่อเทียบกับการผลิตเหล็กแบบดั้งเดิมที่ใช้ถ่านโค้ก (coking coal) ในแต่ละปี ปอร์เช่จะใช้เหล็กที่ปล่อยมลพิษต่ำที่ผ่านกระบวนการผลิตในสวีเดนมากถึง 35,000 ตัน เพื่อใช้ในการผลิตรถยนต์ปอร์เช่จำนวนมาก อย่างไรก็ตามเมื่อปี 2022 รถยนต์ปอร์เช่ใช้เหล็กโดยรวมมากถึง 220,000 ตัน

          บาร์บาร่า เฟรงเคิล (Barbara Frenkel) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อของปอร์เช่ (Porsche) กล่าวว่า "ปอร์เช่กำลังมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย เรื่องการสร้างความสมดุลของคาร์บอนในห่วงโซ่คุณค่าของรถยนต์ ซึ่งภายในปี ค.ศ. 2023 เหล็กที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถือเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การพัฒนาที่ยั่งยืนของเรา โดยเป้าหมายคือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเหล็กที่ผลิตโดย H2 Green Steel ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สัดส่วนของการใช้เหล็กในรถยนต์ปอร์เช่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ปอร์เช่ (Porsche) ก็หันมาพึ่งพาอะลูมิเนียมมากขึ้นสำหรับโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา อย่างไรก็ตามเหล็กยังคงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในการผลิตรถสปอร์ตเนื่องจากมีคุณสมบัติที่ตรงกับกลยุทธ์ของเรา ทั้งด้านของพลังงาน หรือกระบวนการผลิตต่างๆ และเพื่อการจัดการวัสดุให้มีสัดส่วนในอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในห่วงโซ่อุปทานที่เหมาะสม นี่คือเหตุผลที่เราต้องการเพิ่มการใช้วัสดุรีไซเคิลและพลังงานสีเขียวในกระบวนการผลิตของซัพพลายเออร์โดยตรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างจริงจังในการลดคาร์บอน"


แหล่งที่มา : RYT9

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.