ยื่นลงทนพุ่ง8แสนล. BOIจูงใจเพิ่มดึงเอกชนทำรถไฟฟ้า

16 มีนาคม 2562
ยื่นลงทนพุ่ง8แสนล. BOIจูงใจเพิ่มดึงเอกชนทำรถไฟฟ้า
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ บีโอไอ กล่าวว่า ที่ประชุมอนุมัติหลักการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะเจ้าของสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ได้รับสัมปทาน ได้รับสิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี  แต่ทั้งนี้ รวมกัน ไม่เกิน 100% ของเงินลงทุน โดยไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ รฟม. จะต้องระบุสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไว้ในประกาศเชิญชวน (ทีโออาร์) อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ประมูลทุกรายทราบโดยทั่วกัน

นอกจากนี้อนุมัติการส่งเสริมให้ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,130 ล้านบาท ที่ตั้งโครงการในจังหวัดชลบุรี เพื่อผลิต ชิ้นส่วนสำคัญในประเทศ และมีแผนพัฒนาผู้ผลิตวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนในประเทศ เพื่อส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐ

ปัจจุบันมีโครงการรถยนต์ไฟฟ้ารวม 9 โครงการ เป็น PHEV ของ มิตซูบิชิ 1 โครงการ โครงการรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด(HEV) ที่เคยอนุมัติไปแล้ว 3 โครงการ โครงการรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่(BEV) ที่เคยอนุมัติไปแล้ว 1 โครงการ และอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติโครงการ PHEV อีก 4 โครงการ รวมวงเงินลงทุน 51,550 ล้านบาท โดยอนุมัติลงทุนแบตเตอรี่ไปแล้ว 10 โครงการ วงเงินลงทุน 6,800 ล้านบาท

ส่วนความชัดเจนการส่งเสริมลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด(อีโค อีวี) นั้น เบื้องต้นได้หารือร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ 4 ค่ายแล้ว เพื่อรับฟังความคิดเห็นถึงทิศทางและความเป็นไปได้ในการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดว่าภาคเอกชนมีความเห็นคิดอย่างไรจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งปรากฏว่าเสียงตอบรับจากผู้ผลิตรถยนต์ ทั้ง 4 ค่าย ไม่ค่อยมีความสนใจลงทุนโครงการนี้

ส่วนแนวโน้มการลงทุนปีนี้ยังคงเป้าหมาย ยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนมูลค่ารวม 750,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 720,000 ล้านบาท แต่มียอดยื่นคำขอมูลค่ารวมมากกว่า 800,000 ล้านบาท แม้ช่วงปลายปีที่ผ่านมาการยื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนจะชะลอตัวลงบ้าง แต่ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง

"นักลงทุนยังให้ความสนใจโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศว่าเป็นไปตามแผนหรือไม่ เพราะมีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ อีกทั้งทิศทางการเข้ามาลงทุนได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียและอาเซียนด้วยกันมากขึ้น จากผลบวกที่จะมีการย้ายฐานการผลิตและลงทุนเข้ามาในไทยมากขึ้น จากผลพวงของสงครามการค้าระหว่างจีนสหรัฐ โดยอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเข้ามาลงทุนมากขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การบิน ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ รวมถึงเศรษฐกิจชีวภาพทั้งด้านพลังงานและเคมีภัณฑ์"นางสาวดวงใจกล่าว

ขณะเดียวกัน บีโอไอยังเห็นชอบกำหนดพื้นที่เขตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดขอนแก่น) และอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ (จังหวัดสงขลา) สำหรับกิจการใดที่เป็นกิจการเป้าหมายในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) แต่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ ก็สามารถขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ได้ โดยจะต้องยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามมาตรการอีอีซี ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 และย้ายไปตั้งอยู่ในเขต อีอีซีไอ ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2565

อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/nnd/2968257
แหล่งที่มา : RYT9

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.