ส่งออกปี’62อ่วม ‘มค.- กค.’ติดลบ1.9%เอกชนชี้ช่องแก้วิกฤติ

04 กันยายน 2562
ส่งออกปี’62อ่วม ‘มค.- กค.’ติดลบ1.9%เอกชนชี้ช่องแก้วิกฤติ
           เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)แถลงการส่งออก ที่ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย

นางสาวกัณญภัคระบุว่า ภาพรวมการส่งออกช่วงเดือนมกราคม- กรกฎาคมปี 2562 ไทยส่งออกรวมมูลค่า 144,176 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว -1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทที่ 4,536,245 ล้านบาทหดตัว -2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

อย่างไรก็ดี การส่งออกเดือนกรกฎาคม 2562 มีมูลค่า 21,205.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.28% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 654,937 ล้านบาท หดตัว -0.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน (YoY)

นางสาวกัณญภัคกล่าวว่า สรท.คงคาดการณ์การส่งออกปี 2562 หดตัว-1%บนสมมุติฐานค่าเงินบาท 33.0 (±0.5) บาทต่อเหรียญสหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2562 = 30.646 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.62-30.90 บาทต่อเหรียญสหรัฐ)

โดยปัจจัยเสี่ยงการส่งออกว่า ประกอบด้วยภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในปัจจุบัน อันได้แก่ สงครามการค้าที่มีรุนแรงมากขึ้นและมีแนวโน้มยืดเยื้อ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการแข่งของสินค้าส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มของสินค้าเกษตรและปัจจัยอื่นๆ

สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญคือขอให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งบุกตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดเดียวที่ไม่ติดลบและมีโอกาสมาก เช่น ยางพาราและไม้ยางพารา อุตสาหกรรมอาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า สเปรย์และเคมีซ่อมแซม ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการค่อนข้างสูงและไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึงใช้ประโยชน์จาก FTA Thai-India และเร่งเจรจา FTA Thai-Sri Lanka

นอกจากนี้ ต้องพิจารณาตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูงและตลาดรอง เช่น กลุ่มแผงวงจรไฟฟ้า ที่มีการเติบโตสูงในตลาด กรีซ ออสเตรีย ยูเครน ซึ่งเป็นโอกาสของสินค้าไทยทดแทนตลาดที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะเดียวกันให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ใช้รูปแบบการหารือระหว่างรัฐและเอกชนรายสินค้า (Champion of Product : COP) ร่วมกับทูตพาณิชย์แต่ละประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นกลไกและช่องทางที่ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการทำได้โดยเร็ว และใช้ช่องการค้าผ่านออนไลน์ e-commerce platform

ส่วนกรณีที่ภาครัฐจะผลักดันส่งออกของไทยปีนี้จะต้องเป็นบวกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 นั้น นางสาวกัณญภัค กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าด้วยปัจจัยเสี่ยงข้างต้นจึงมองว่าโอกาสส่งออกของไทยปีนี้น่าจะติดลบมีโอกาสสูงมาก

ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ย้ำต่อภาคเอกชนว่าปีนี้จะพยายามเร่งผลักดันทุกแนวทาง เพื่อให้ภาคการส่งออกของไทยปีนี้จะต้องเป็นบวกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3

อ่านต่อได้ที่ : https://www.naewna.com/business/437974
แหล่งที่มา : แนวหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.