ช่วงที่ตลาดอสังหา ริมทรัพย์ไทยเนื้อหอม ผู้ซื้อต่างชาติ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และยุโรป สนใจซื้อคอนโด มิเนียมในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ เต็มโควตาในส่วนของผู้ซื้อต่างชาติหลายโครงการนั้น จึงตามด้วยกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติรุกขยายฐานมาสู่ไทย นอกจากญี่ปุ่นที่แห่ลงทุนมากที่สุด ทุนจากฮ่องกง ก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่โดดขอแบ่งเค้ก ก่อนจะเกิดเหตุชุมนุมประท้วงด้วยซํ้า
ปัจจุบันกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากฮ่องกงที่มาลงทุนในไทยมี 5 บริษัท ประกอบด้วย ฮ่องกง แลนด์, ไรส์แลนด์, คิงไวกรุ๊ป, เซวาส พรอพเพอร์ตี้ส์ และ ARCH Capital Management โดยกลยุทธ์การลงทุนจะใช้รูปแบบการร่วมทุนกับบริษัทของไทย
ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุชุมนุมประท้วงยืดเยื้อ และคาดการณ์ว่าจีนประเทศแม่จะกดดันให้ทางการฮ่องกงจัดการกับผู้ชุมนุมประท้วง ทำให้ประเมินกันว่าอาจมีคนฮ่องกงมีแนวคิดซื้อที่พักอาศัยในต่างประเทศ ซึ่งไทยก็เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่คาดว่าจะได้อานิสงส์
ขณะเอเยนต์ใหญ่ นายธิติวัฒน์ ธีรกุลธัญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้อานิสงส์เบาบาง เนื่องจาก คนกลุ่มนี้ เป็นกลุ่ม ไฮเอนด์ มีความเป็นส่วนตัวสูง ชื่นชอบเอกลักษณ์การอยู่อาศัย แบบเกาะ ส่วนใหญ่ จะยังคงมองไปที่ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เนื่องจากเงินดอลล์อ่อน เหมาะแก่การลงทุน อีกประเทศที่นิยมคือ สิงคโปร์ ซึ่งมีทั้งซื้ออสังหาและ จองที่พักสำหรับท่องเที่ยวมากถึง 98% อย่างไรก็ตามพฤติกรรมชาวฮองกง หาก จะเข้ามาซื้อ คอนโดฯไทยจะเป็นกลุ่มระดับกลางและมาไม่มากเหมือนประเทศจีน
อ่านต่อได้ที่ : https://www.thansettakij.com/content/409139