บ.เป่าสตีล (Baosteel) เตือนเหล็กล้นตลาดในจีน จากความต้องการคงที่
เป่าสตีล (Baosteel) กล่าวในรายงานประจำปี 2562 ว่า ตลาดเหล็กจีนจะเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปริมาณเหล็กที่ผลิตออกมามากเกินไป ในปี 2563 ในขณะที่ความต้องการเหล็กในประเทศจีนคาดว่าจะคงที่
กำลังการผลิตเหล็กใหม่ จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อปริมาณการผลิตเหล็กในปีนี้ ในขณะที่การส่งออกเหล็กทั้งทางตรงและทางอ้อมคาดว่าจะลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2
เป่าสตีลกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนจะเน้นเพิ่มการลงทุน มากกว่าการบริโภค ดังนั้น การก่อสร้างและเครื่องจักรทางวิศวกรรมจะได้ประโยชน์ และเพิ่มความต้องการสำหรับเหล็กเส้น เหล็กรีดร้อนชนิดแผ่นและเหล็กรีดร้อนชนิดม้วน
เป่าสตีลคาดว่าภาคอสังหาริมทรัพย์จะเป็นขาลงในปี 2563 แต่การลงทุนสินทรัพย์ถาวรของสาธารณูปโภคพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7-11 เทียบกับ ร้อยละ 3.8 ในปี 2562 Platts คาดว่าความต้องการเหล็กจะมีในครึ่งหลังของปีนี้มากกว่าครึ่งปีแรก
เนื่องจากการขัดจังหวะจากการระบาดของไวรัสโคโรนา การลงทุนทรัพย์สินคงที่ของสาธารณูปโภคพื้นฐานของจีนลดลงร้อยละ 20 จากไตรมาสที่ 1 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งหมายถึงอัตราการเติบโตของการลงทุนทรัพย์สินคงที่รายปี สำหรับไตรมาสที่ 2-4 จะมีความต้องการมากกว่าร้อยละ 15 เพื่อที่จะให้ถึงตัวเลขคาดการณ์ของเป่าสตีล
การบริโภคที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตต่างๆ เช่น ยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จะได้รับการสนับสนุนน้อยลง ด้วยเหตุนี้ แนวโน้มความต้องการเหล็กรีดเย็นชนิดม้วน และผลิตภัณฑ์ที่ใช้เหล็ก เช่น เหล็กชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนชนิดม้วนนั้น ไม่ถูกมองในแง่ดี
โดยทั่วไป อัตราการใช้กำลังการผลิตของผู้บริโภคเหล็กทรงแบนของจีนในปัจจุบัน อยู่ที่ร้อยละ 20-30 ซึ่งต่ำกว่าปกติ (จากข้อมูลของเป่าสตีล) ผู้ใช้เหล็กขั้นปลายเผชิญกับภาวะเหล็กคงคลังในระดับสูง เนื่องจากการผลิตแบบช้าๆของผู้ใช้เหล็ก ซึ่งจะทำให้ความต้องการรีสต็อกนั้นล่าช้าออกไป เป่าสตีลกล่าวว่า ปัจจุบันได้เผชิญกับคำสั่งซื้อ CRC ที่ไม่เพียงพอ
บริษัทคาดว่ายอดขายของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจะดีขึ้น จากไตรมาสที่ 2 แต่ยอดขายประจำปี น่าจะลดลงมากกว่า ร้อยละ 10 ในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาดต่อเศรษฐกิจของโลก ความต้องการเหล็กทรงยาวที่เข้มแข็ง และความต้องการเหล็กทรงแบนที่อ่อนแอ จะมีไปอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2563
-- Analyst Jing Zhang