การปรับแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นของจีน

18 กันยายน 2563
การปรับแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นของจีน
          Platts ได้ปรับคาดการณ์แนวโน้มดีขึ้น สำหรับการผลิตเหล็กดิบของจีนในปี 2563 โดยอยู่ระหว่าง 1,035 ล้านตัน และ 1,045 ล้านตัน ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 4%-5% จากปีที่แล้ว โดย Platts คาดการณ์ว่าปีนี้การผลิตของจีนจะเติบโต 2% จากปีก่อน
          มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินและการคลังของจีนที่ประกาศออกมาเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา ได้ช่วยเพิ่มความต้องการเหล็กจากภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคสาธารณูปโภคในปีนี้ และช่วยอัดฉีดเงินเข้าไปในตลาดเหล็กอีกด้วย ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ถือเหล็กคงคลังที่มีปริมาณสูงมากได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว
          โดยปกติ เดือนสิงหาคมเป็นฤดูที่มีความต้องการเหล็กต่ำในตลาดเหล็ก เนื่องจากอากาศร้อนในฤดูร้อนและฝนตกในจีนใต้ การผลิตเหล็กที่เข้มแข็งทำให้มีปริมาณเหล็กคงคลังที่สูงขึ้น ณ วันที่ 10 กันยายน ปริมาณเหล็กทรงยาวคงคลังในตอนเหนือของเมืองปักกิ่ง (Beijing) ทางตะวันออกของเมืองหางโจว (Hangzhou) และตอนใต้ของเมืองกวางโจว (Guangzhou) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณร้อยละ 100 ร้อยละ 50 และร้อยละ 45 ตามลำดับ
          จากข้อมูลของสมาคมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งจีน (CISA) ปริมาณเหล็กคงคลัง ในส่วน 5 ผลิตภัณฑ์หลัก ใน 20 เมืองของจีน อยู่ที่ 12.43 ล้านตัน ในช่วงวันที่ 1-10 กันยายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับวันที่ 31 สิงหาคม แต่ลดลงร้อยละ 38.5 จากระดับสูงสุดในต้นเดือนมีนาคม
          แหล่งข่าวในตลาดบางรายกล่าวว่า การผลิตเหล็กที่เข้มแข็งในเดือนสิงหาคม เกิดจากที่ตลาดคาดหวังว่าภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคสาธารณูปโภคพื้นฐานจะได้รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกในเดือนถัดๆมา ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น
          โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ของจีน ในส่วนพื้นที่ก่อสร้าง ได้ลดลงไปอยู่ที่ร้อยละ 2.4 จากปีที่ผ่านมา ในเดือนสิงหาคม จากร้อยละ 11.3 ในเดือนกรกฎาคม  ในขณะที่การเติบโตของการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานลดลงไปอยู่ที่ร้อยละ 4 จาก ร้อยละ 7.9 ในช่วงเดียวกัน จากการประเมินของ Platts โดยใช้ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน
           แหล่งข่าวกล่าวว่า จีนได้ประกาศเงื่อนไขสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น กับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม  การใช้จ่ายด้านการคลังของจีน ซึ่งเป็นแหล่งหลักสำหรับสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากปีก่อน ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้
          แหล่งข่าวบางรายกล่าวว่า ปริมาณเหล็กทรงยาวคงคลัง น่าจะส่งแรงกดดันต่อตลาดเหล็กในปีนี้ และอาจทำให้เทรดเดอร์ลดสต็อกลงได้
          ในวันที่ 10 กันยายน ปริมาณคงคลังของเหล็กเส้น และเหล็กรีดร้อนชนิดม้วน (HRC) อยู่ที่ 6.59 ล้านตัน และ 1.86 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 และร้อยละ 2.8 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับปลายเดือนสิงหาคม จากข้อมูลของสมาคมฯ
นักวิเคราะห์ในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า HRC จะดูดีกว่าเหล็กเส้น ในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตฟื้นตัว และการส่งออกปรับตัวดีขึ้น ตลาดเครื่องใช้ภายในบ้านและตลาดรถยนต์ในประเทศกำลังปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย
           ณ วันที่ 10 กันยายน ปริมาณเหล็กรีดเย็นชนิดม้วน (CRC) คงคลัง ลดลงร้อยละ 0.9 โดยอยู่ที่ 1.12 ล้านตัน ตลาด CRC ของจีน มีความเกี่ยวข้องกันมากกับการผลิตรถยนต์ ยอดขายรถยนต์คาดว่าเพิ่มขึ้นในเดือนกันยายนเนื่องจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการแสดงรถยนต์ที่กำลังจะมาถึงในเมืองปักกิ่ง สมาคมดีลเลอร์รถยนต์จีน (China Automobile Dealers Association) กล่าว
 
-- Analyst Jing Zhang, Analyst Sylvia Cao

แหล่งที่มา : Steel Business Briefing

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.