นโยบาย‘โจ ไบเดน’หนุนย้ายฐานรับอานิสงส์สหรัฐปักหลัก‘อีอีซี’

21 มกราคม 2564
นโยบาย‘โจ ไบเดน’หนุนย้ายฐานรับอานิสงส์สหรัฐปักหลัก‘อีอีซี’
“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ เข้ามารับหน้าที่บนสถานการณ์ที่สหรัฐกำลังเผชิญภาวะวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่นโยบายหลายด้านจะมีส่วนกดดันให้บริษัทสหรัฐกลับมาใช้นโยบายออกไปลงทุนนอกประเทศมากขึ้น
มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า นโยบายของ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่จากพรรคเดโมแครตถือว่ามีพื้นฐานนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่แตกต่างจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพลับรีกันชัดเจน 
ทั้งนี้ ไบเดนจะให้ความสำคัญกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศเพิ่มการส่งออกสินค้า ซึ่งทำให้บรรยากาศการค้าของโลกมีความผ่อนคลายมากขึ้นแม้จะยังมีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอยู่แต่จะมีแนวทางการเจรจาเพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศทำการค้าได้มากขึ้น 
รวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐมีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกคือมีสัดส่วนประมาณ 17% ของจีดีพีโลก ดังนั้นเมื่อสหรัฐมีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นการเพิ่มการบริโภคเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ความต้องการสินค้าต่างในสหรัฐจะมากขึ้นกระตุ้นให้เกิดการผลิตและการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการนำเข้าสินค้าในสหรัฐมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นโอกาสของประเทศไทยในการส่งออกสินค้าไปทั้งยังสหรัฐฯและจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกสินค้าอันดับ 1 และ 2 ของไทยได้มากขึ้น 
อย่างไรก็ตามนโยบายของ “ไบเดน” ที่จะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำในสหรัฐเป็น 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงจากเดิมที่ 7.25 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง รวมถึงการปรับเพิ่มภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 28% จะมีส่วนสำคัญในทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรมออกจากสหรัฐมากขึ้นด้วย
“หลายบริษัทในสหรัฐจะกลับมาใช้นโยบายออกไปลงทุนภายนอกประเทศมากขึ้นโดยภูมิภาคหนึ่งที่บริษัทสหรัฐให้ความสนใจเข้ามาลงทุน คือ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยทำให้เป็นโอกาสที่จะมีการลงทุนใเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพิ่มขึ้นด้วย”  

อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/3p2572f

แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.