"จุดประสงค์ของเราไม่ใช่สร้างแรงกดดันทางการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เราต้องปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างถึงที่สุด ซึ่งหมายความว่าเราจะใช้ทุกขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปกป้องตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม" นางไท่กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับการทบทวนนโยบายการค้าของจีนที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และนานาชาติ ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.)
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ นางไท่ได้ย้ำว่ารัฐบาลของปธน.ไบเดนเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจีนไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงทางการค้าเฟสแรก ซึ่งในข้อตกลงการค้าเฟสแรกนั้น จีนได้ตกลงที่จะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐเพิ่มขึ้นจากปี 2560 อย่างน้อย 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2563-2564
ทั้งนี้ ข้อมูลการส่งออกของสหรัฐที่สถาบันวิจัย Peterson Institute for International Economics (PIIE) รวบรวมไว้นั้น จีนทำได้ตามเป้าหมายดังกล่าวไปเพียงแค่ 62% เท่านั้น
แถลงการณ์ของนางไท่เป็นจุดเริ่มต้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของข้อตกลงการค้า "เฟสแรก" ระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นการผ่อนคลายสงครามภาษีระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งนี้ สหรัฐเรียกร้องให้จีนเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรกรรม สินค้าประดิษฐกรรม พลังงาน และบริการของสหรัฐในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นปี 2564
