ตลาดเหล็กที่มีอุปทานล้นเกินของจีนในช่วงที่ผ่านมา อาจได้รับการบรรเทาลงบ้าง เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์ขาลงจะถึงจุดต่ำสุดในระยะเวลาอันใกล้นี้ แหล่งข่าวอุตสาหกรรมบอกกับ S&P Global Commodity Insights ในวันที่ 16 พ.ค.
ผลผลิตเหล็ก pig iron รายวันของจีน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดเผชิญกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว ทำให้ตลาดเหล็กอยู่ภายใต้แรงกดดัน
ในขณะที่อุปทานส่วนเกินในตลาดเหล็กของจีนไม่น่าจะบรรเทาลงในเดือนนี้ แต่แหล่งข่าวอุตสาหกรรมบางแห่งเริ่มมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ โดยคาดว่าขาลงจะถึงจุดต่ำสุดในระยะเวลาอันใกล้นี้
แนวโน้มอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนใหญ่คาดมาจากความเคลื่อนไหวล่าสุดของการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของจีนลง 0.2 จุด สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก เมื่อวันที่ 15 พ.ค. บ่งชี้ว่าประเทศเปลี่ยนจากการลดภาระหนี้สินในระบบมาเป็นสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์
แม้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะไม่พลิกได้แนวโน้มขาลงของการขายอสังหาริมทรัพย์หรือบ้านใหม่ในระยะอันใกล้ แต่มันส่งสัญญาณถึงนโยบายที่สนับสนุนมากขึ้น
ที่สำคัญกว่านั้น มาตรการรับมือสถานการณ์โควิด-19 จะเริ่มแสดงผลในไม่ช้า ส่งผลให้การขนส่งภายในประเทศราบรื่นขึ้น แหล่งข่าวกล่าว
ข้อจำกัดทางสังคมและการล็อกดาวน์ที่เกิดจากการแพร่ระบาดในจีน เป็นสาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังการตกต่ำของข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนเมษายน และยังขัดขวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ และการผลิตอีกด้วย
แหล่งที่มาของตลาดบางแห่งเชื่อว่าทันทีที่การขนส่งและการเดินทางสามารถกลับสู่ภาวะปกติ นโยบายการคลังและการเงินของจีนจะช่วยเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
แหล่งข่าวกล่าวว่า การบริโภคสินค้าขายปลีกของจีนจะปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในทางกลับกันก็จะช่วยให้การฟื้นตัวของอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรมเหล็ก
การลดลงของที่อยู่อาศัยเมื่อเทียบเป็นรายปีเริ่มแย่ลงไปอีกในเมษายนเป็น 44.20% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และจากการลดลง 22.20% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับปีก่อน
การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของจีนในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกัปีก่อน แต่อัตราส่วนใหญ่ชะลอตัวลงอย่างมากจากในเดือนมีนาคมที่ขยายตัว 8.80% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ผู้บริโภคเหล็กรายใหญ่ในภาคการผลิตก็ลดลงในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยการผลิตรถยนต์ลดลง 43.50% เมื่อเทียบกับปีก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 พ.ค. เซี่ยงไฮ้ได้ประกาศกำหนดการยกเลิกการล็อกดาวน์ซึ่งเริ่มในวงปลายเดือนมีนาคม นั่นบ่งชี้ว่าทั้งเมืองและทั้งประเทศอาจค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติในไม่ช้า ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการก่อสร้างและการผลิตต่อไปอีก