คณะกรรมการวางแผนเศรษฐกิจประกาศว่า รัฐว้า ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมา ได้เรียกเก็บภาษีในรูปสินค้าและบริการ (tax in kind) ในอัตรา 30% สำหรับการส่งออกดีบุกทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.67ที่ผ่านมา
บริษัทวิจัย มายสตีล โกลบอล (Mysteel Global) ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้มีเพียงดีบุกเกรดสูงเท่านั้นที่ต้องเสียภาษีในรูปแบบดังกล่าว ส่วนดีบุกเกรดต่ำลงมาถูกเรียกเก็บภาษีในรูปแบบเงินสดในอัตราต่ำกว่า
สมาคมดีบุกระหว่างประเทศ (ITA) ระบุว่า เมียนมาเป็นผู้ผลิตแร่ดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และการขึ้นภาษีจะส่งผลให้อุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการแปรรูปอาหารและเซมิคอนดักเตอร์ ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น โดยแหล่งแร่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัฐว้าคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของอุปทานดีบุกของจีนในปี 2565