ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ก.พ.ชะลอตัว กังวลค่าครองชีพ-หนี้ครัวเรือนฉุด

13 มีนาคม 2567
ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ก.พ.ชะลอตัว กังวลค่าครองชีพ-หนี้ครัวเรือนฉุด
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนก.พ.67 อยู่ที่ระดับ 90.0 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 90.6 ในเดือนม.ค.67 จากยอดขายโดยรวม, คำสั่งซื้อโดยรวม, ปริมาณการผลิต และผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยลบจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพและปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย

ด้านการส่งออกยังคงชะลอตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ยังอ่อนแอ โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น ประกอบกับปัญหาความขัดแย้งบริเวณทะเลแดงยังคงยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อการนำเข้า-ส่งออกของไทย โดยเฉพาะตลาดยุโรป และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังเผชิญปัญหาการแข่งขันด้านการตลาดสูงขึ้น รวมถึงได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ ส่งผลให้ยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการไทยลดลง ขณะที่ต้นทุนราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และผลจากมาตรการวีซ่าฟรี (Visa Free) ให้กับนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน รวมถึงมาตรการ Easy E-Receipt ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.67 ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ

ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 98.4 ในเดือนม.ค.67 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริภคในประเทศ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2/67 หลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2567 ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ

ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยต้องติดตาม ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ขณะที่สถานการภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญ อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในภาคเกษตรและปริมาณน้ำในภาคอุตสาหกรรม

ส.อ.ท.มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้

1. ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว

2. เสนอให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร และตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก. ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.นี้

3. สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจัดจ้างผู้ประกอบการ SMEs เป็นไม่น้อยกว่า 50% ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะในหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น


แหล่งที่มา : ํRYT9

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.