ทรัมป์ลงนามแล้ว เก็บภาษีจีนเพิ่ม 2 เท่าเป็น 20 % จีนตอบโต้เก็บกลับ 10-15 %

04 มีนาคม 2568
ทรัมป์ลงนามแล้ว เก็บภาษีจีนเพิ่ม 2 เท่าเป็น 20 % จีนตอบโต้เก็บกลับ 10-15 %
ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีจีนเพิ่มเป็น 20 % และเตรียมเก็บภาษีจากแคนาดา เม็กซิโกในอัตรา 25 % มีผลวันเดียวกัน 4 มีนาคม ขณะที่จีนตอบโต้เรียกเก็บสินค้าเกษตรนำเข้าจากสหรัฐ 10- 15 % มีผล 10 มีนาคม

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ทำเนียบขาวแจ้งว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนแบบครอบคลุมเพิ่ม 2 เท่า เป็น 20 % หลังจากเก็บรอบแรก 10 % เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ โดยจะมีผลหลังเที่ยงคืน หรือ หลังเวลา 00.00 น. ในวันที่ 4 มีนาคมไม่นาน ตามเวลาสหรัฐ เนื่องจากจีนไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาการหลั่งไหลของเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาเสพติดเข้าสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ จีนได้ตอบโต้การเรียกเก็บภาษี 10 % รอบแรกแบบจำกัดโดยเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐในบางรายการ ในอัตรา 10-15 %

ภาษีใหม่หลายรายการอาจช่วยเพิ่มรายได้ให้สหรัฐ เพื่อนำไปชดเชยการลดหย่อนภาษีในประเทศได้บางส่วนตามที่ทรัมป์ต้องการ และอย่างน้อยก็ยุติทฤษฎีที่ว่าการขู่ของทรัมป์เป็นเพียงการหลอกลวงเพื่อใช้เป็นอำนาจต่อรองในการเจรจา อย่างน้อยก็ในตอนนี้

จีนตอบโต้เก็บ 10-15 %
ภายหลังจากที่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีจีนเป็น 20 % ในไม่กี่ชั่วโมง จีนใช้มาตรการตอบโต้เรียกเก็บภาษีสินค้าเกษตรสหรัฐ 10-15 % และแบนการส่งออกสินค้าจากบริษัทอาวุธสหรัฐหลายแห่ง จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มีนาคม ยิ่งทำให้สงครามการค้าทวีความรุนแรงระหว่างมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับ 1 และ 2 ของโลก

ตามประกาศของกระทรวงการคลังจีน กลุ่มสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 15 % ได้แก่ ไก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด และฝ้าย ส่วนกลุ่มสินค้าเก็บ 10% ได้แก่ ข้าวฟ่าง ถั่วเหลือง เนื้อหมู เนื้อวัว สินค้าประมง ผลไม้ ผัก และผลิตภัณฑ์นม

อย่างไรก็ตาม จีนจะไม่เพิ่มภาษีสำหรับสินค้าที่จัดส่งจากจุดหมายปลายทางก่อนวันที่ 10 มีนาคม และนำเข้ามายังจีนระหว่างวันที่ 10 มีนาคมถึง 12 เมษายนนี้

ลินน์ ซอง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำจีนแผ่นดินใหญ่ที่ ING Bank มองว่า การตอบโต้ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงอดทนแม้ว่าสถานการณ์จะตึงเครียดขึ้น

กระทรวงการคลังจีนระบุในแถลงการณ์ว่า การขึ้นภาษีศุลกากรฝ่ายเดียวของสหรัฐจะสร้างความเสียหายต่อระบบการค้าพหุภาคี เพิ่มภาระให้กับบริษัทและผู้บริโภคของสหรัฐ และทำลายรากฐานความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ

ในช่วงสงครามการค้ารอบแรกทรัมป์ 1.0 รัฐบาลจีนได้กำหนดภาษีศุลกากรผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สำคัญของสหรัฐ ในปริมาณมหาศาล ส่งผลให้ยอดขายถั่วเหลืองของสหรัฐไปยังจีนลดลงเกือบ 80% ในช่วงเวลาสองปี นับแต่นั้นมา จีนก็ได้ซื้อถั่วเหลืองจากบราซิลมากขึ้น

นอกจากนี้ จีนได้เพิ่มบริษัทสหรัฐ 10 แห่งลงในรายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ และ 15 แห่งอยู่ในรายชื่อควบคุมการส่งออก

กระทรวงพาณิชย์จีนจะเพิ่มบริษัทด้านการป้องกันประเทศของสหรัฐ 10 แห่ง รวมถึง TCM และ S3 Aero Defense และ TEXO เข้าไปในลิตส์บริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ และห้ามการนำเข้าและส่งออกจากจีน รวมถึงการลงทุนใหม่ในจีน และยังเพิ่มบริษัท 15 แห่งอยู่ในลิสต์ที่ต้องควบคุมการส่งออก รวมถึงบริษัทด้านการป้องกันประเทศของสหรัฐอย่าง Leidos และ Gibbs & Cox ถูกห้ามการส่งออกวัสดุที่ใช้ได้สองทาง (วัสดุที่สามารถใช้ได้ทั้งทางพลเรือนและทางทหาร) อาทิ เช่น แร่สำคัญหลายชนิด รวมถึงบริษัท Illumina  ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์พันธุกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก  โดยห้ามการส่งออกเครื่องเรียงลำดับยีนไปยังจีน

ไม่เลื่อนแล้วภาษีแคนาดา-เม็กซิโก
นอกจากนี้ ทรัมป์ กล่าวว่า จะเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเพิ่มตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมนี้ หลังจากลงนามในคำสั่ง ซึ่งการเก็บภาษีแคนาดาและเม็กซิโกใช้ในในอัตรา 25 % แต่ในส่วนสินค้าพลังงานจากแคนาดาเก็บ 10 % ถือเป็นการโจมตีคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 2 รายของสหรัฐอย่างชัดเจน และเน้นย้ำถึงความพยายามของสหรัฐในพลิกระเบียบการค้าโลก

การยืนยันเตรียมเก็บภาษีแคนาดาและเม็กซิโกตามกำหนด 4 มีนาคมนี้ เกิดขึ้นภายหลังการบังคับใช้ภาษีนำเข้าจากสองประเทศเพื่อนบ้านถูกเลื่อนไปชั่วคราว เพราะตกลงกับทรัมป์ได้ว่าจะดำเนินมาตรการความปลอดภัยชายแดนที่เข้มงวดขึ้น กระทั่งล่าสุด ทรัมป์เดินหน้าเตรียมเก็บภาษี โดยให้เหตุผลว่า การหลั่งไหลของเฟนทานิลมายังสหรัฐยังสูงและไม่สามารถยอมรับได้

ตามผลการศึกษาวิจัยล่าสุดของแอนเดอร์สัน อีโคโนมิกส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาเชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะระบุว่า ภาษีนำเข้าสินค้าที่สหรัฐจะเรียกเก็บจากแคนาดาและเม็กซิโกอาจทำให้ราคารถยนต์ของสหรัฐพุ่งสูงขึ้นถึง 12,000 ดอลลาร์ (ราว 480,000 บาท) เนื่องจากบริษัทผลิตรถยนต์มีแนวโน้มที่จะโยนภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ให้ผู้บริโภค

ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบอม ผู้นำเม็กซิโก กล่าวว่า รัฐบาลเม็กซิโกจะรอการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของทรัมป์ก่อน จึงจะใช้มาตรการตอบโต้ตามมา

แคนาดามีแผนตอบโต้ด้วยภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเช่นกัน แผนการตอบโต้ที่เปิดเผยโดยจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนที่แล้ว ประกอบด้วยการจัดเก็บภาษีทันทีกับสินค้ามูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 700,000 ล้านบาท) จากผู้ส่งออกของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงน้ำส้ม เนยถั่ว และกาแฟ และยังรวมถึงการจัดเก็บภาษีรอบที่สองในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้ากับสินค้ามูลค่าราว 8.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (2.9 ล้านล้านบาท) ซึ่งรวมถึงรถยนต์ รถบรรทุก เหล็กกล้า และอะลูมิเนียม
แหล่งที่มา : ประชาชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.