หากจีนมีการบังคับอย่างเคร่งครัด โดยให้มีการลดปริมาณการผลิต ในปี 2025 ลง 50 ล้านตัน คาดว่าราคาผลิตภัณฑ์เหล็กของจีนจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาแร่เหล็ก (iron ore) จะได้รับผลกระทบในช่วงปลายปี เนื่องจากความต้องการเหล็กโดยรวมจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีแนวโน้มลดลงเพียง 1-2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ผู้เข้าร่วมตลาดบางรายกล่าว
อย่างไรก็ตาม อีกแหล่งข่าวกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวในปี 2025 อาจเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากการลดการผลิต 50 ล้านตัน อาจสร้างภาระทางเศรษฐกิจให้กับเศรษฐกิจในบางท้องถิ่น
“หากปรากฎว่าไม่มีการบังคับให้ลดผลผลิตเหล็กลงถึง 50 ล้านตัน ในปี 2025 ราคาเหล็กอาจยังมีช่องทางในการปรับตัวลดลง จากทั้งด้านความต้องการภายในประเทศและการส่งออกที่หดตัว ท่ามกลางอุปสรรคการค้าที่เพิ่มขึ้น” แหล่งข่าวของโรงงานเหล็กกล่าว
แหล่งข้อมูลในตลาด ระบุว่า หากไม่มีคำสั่งของรัฐบาลในการปรับลดปริมาณการผลิตเหล็ก ในปี 2025 ผลผลิตเหล็กดิบ (crude steel) ของจีน ก็มีแนวโน้มจะลดลงประมาณ 10-20 ล้านตัน เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งสอดคล้องกับความต้องการเหล็กที่ลดลง
ในปี 2023 ท่ามกลางแรงกดดันจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงไม่มีคำสั่งของรัฐบาลในการลดการผลิตเหล็กเกิดขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตเหล็กดิบของจีนเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 1.022 พันล้านตัน (ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ) ในทำนองเดียวกัน ในปี 2024 ก็ไม่ได้มีการบังคับลดการผลิตเหล็กเช่นกัน