กำลังการผลิตเหล็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจเพิ่มขึ้นมากถึง 90.8 ล้านตันต่อปี จากระดับปัจจุบันก่อนปี 2026 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2.3 เท่า คุณ Yeoh Wee Jin เลขาธิการของ South East Asia Iron & Steel Institute หรือ SEAISI กล่าวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม
ในปี 2020 ผลผลิตของภูมิภาคอยู่ที่ 71.8 ล้านตันต่อปี ดังนั้นการเพิ่มขึ้นที่คาดการณ์ไว้อาจส่งผลให้มีผลผลิตโดยรวม 162.6 ล้านตันต่อปี เขากล่าวในการประชุม Singapore Coking Coal Conference ซึ่งจัดโดย S&P Global ข้อมูลเชิงลึกด้านสินค้าโภคภัณฑ์
Yeoh Wee Jin กล่าวว่าการเพิ่มผลผลิตจะเน้นที่อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม โดยสังเกตว่าโครงการต่างๆ ถูกครอบงำโดยการลงทุนจากประเทศจีน
หนึ่งในโครงการสำคัญคือโครงการ Wenan Steel project ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน ซึ่งเป็นศูนย์รวมเหล็กและเหล็กกล้ามูลค่า 13 พันล้านริงกิตมาเลเซีย (3.1 พันล้านดอลลาร์) ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรม Samalaju ใน Bintulu โดยจะมีโรงถลุงเหล็ก 5 ล้านตันต่อปี และการผลิตส่วนใหญ่จะถูกส่งออก เมื่อเริ่มดำเนินการภายในสิ้นปี 2024
ท่ามกลางการเพิ่มขึ้น ทำให้กำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อน (hot-rolled steel products) อาจสูงถึง 190.6 ล้านตัน/ปี จากประมาณ 101.4 ล้านตันต่อปีในปัจจุบัน ซึ่งบ่งชี้ว่าจะมีอุปทานส่วนเกินในอนาคต และภูมิภาคนี้จะกลายเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กรายใหญ่
เป็นผลให้ กระแสการค้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีแร่เหล็กและถ่านโค้กเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น ในขณะที่ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปและเศษเหล็กสามารถเข้าสู่ประเทศจีน ในขณะที่เทคโนโลยีการผลิตเหล็กที่ "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" เปลี่ยนไป เช่น เตาหลอมอาร์คไฟฟ้า (electric-arc furnaces)
ในช่วงมกราคมถึงเมษายน จีนอนุมัติการก่อสร้างเตา EAF ใหม่ 16 แห่ง โดยมีกำลังการผลิตเหล็กดิบรวม 13.67 ล้านน/ปี ตามข้อมูลของ S&P Global Commodity Insights