
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ตลาดเหล็กของจีน แสดงปฏิกิริยาอย่างเย็นชาต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2569–2573) (15th Five-Year Plan for 2026-30) ที่เพิ่งประกาศออกมา โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดภายในประเทศแสดงความกังวลว่า แนวทางการพัฒนาที่ระบุไว้ในแผนอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นความต้องการใช้เหล็กในระดับที่มีนัยสำคัญในช่วงปีต่อ ๆ ไป
ราคาเหล็กล่วงหน้าในตลาด Shanghai Futures Exchange ร่วงลงติดต่อกัน 2 วัน หลังจากที่จีนเผยแพร่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม
สัญญาซื้อขายเหล็กเส้น (rebar) และเหล็กแผ่นรีดร้อน ( hot-rolled coil) ที่มีการซื้อขายคึกคักที่สุดในเดือนมกราคม ที่ตลาด Shanghai Futures Exchange ในวันที่ 24 ต.ค. ปิดที่ 3,046 หยวนต่อตัน ($428/ตัน) และ 3,250 หยวนต่อตัน ลดลง 0.8% และ 0.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับวันที่ 23 ต.ค.
แผนดังกล่าวกำหนดเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ เช่น การรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในขอบเขตที่เหมาะสม การกระตุ้นการบริโภคครัวเรือน การพัฒนาการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี และการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสูงสุด (carbon peak) ตามระยะที่กำหนด
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 มุ่งเป้าไปที่การริเริ่มฟื้นฟูเมืองในภาคโครงสร้างพื้นฐาน Zhen Shanjie, อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม เกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 ว่า จีนมีแผนจะก่อสร้างและปรับปรุงเครือข่ายท่อส่งใต้ดินมากกว่า 700,000 กิโลเมตร ในช่วงปี พ.ศ. 2569–2573 ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนใหม่มากกว่า 5 ล้านล้านหยวน
อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลจากกระทรวงที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมืองและชนบทของจีน ( Ministry of Housing and Urban-Rural Development) ระบุว่า ในปี 2024 จีนได้ดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงเครือข่ายท่อส่งใต้ดินแล้วเสร็จรวมระยะทาง 175,000 กิโลเมตร และคาดว่าจะดำเนินการได้มากกว่า 100,000 กิโลเมตร ในปี 2025
“การขยายตัวของเมืองในจีนเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว และเป็นเรื่องยากที่จะกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิม เช่น การก่อสร้างสะพานและถนนอีกครั้ง” แหล่งข่าวด้านการค้า ระบุ “ความเข้มของการใช้เหล็กในการปรับปรุงเมืองใหม่จะต่ำกว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิมอย่างมาก”