
แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากภาษีโลหะของสหรัฐฯ กำลังผลักดันผู้ประกอบการก่อสร้างและผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศให้เผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรม
ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ประกาศเก็บภาษีร้อยละ 50 สำหรับการนำเข้าอะลูมิเนียม เหล็ก และทองแดง ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับตลาดโลกและส่งผลให้ทิศทางการค้าทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไป
มาตรการดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมโลหะและการผลิตของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมก่อสร้างและยานยนต์ ซึ่งเป็นผู้บริโภคโลหะรายใหญ่ที่สุดของประเทศ อาจเผชิญกับความต้องการที่ลดลง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้า
Gary Hufbauer นักวิชาการอาวุโสไม่ประจำของสถาบัน Peterson Institute for International Economics ใน Washington กล่าวว่า “Trump ได้เก็บภาษีกับโลหะอุตสาหกรรมทั้งหมด รวมถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำด้วย ซึ่งจะส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างแน่นอน” “มาตรการนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคก่อสร้าง รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย”
Gary Hufbauer กล่าวกับ Platts ว่า ความต้องการโลหะที่ลดลงจากสองอุตสาหกรรมนี้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน “ผลกระทบในภาคก่อสร้างจะเกิดขึ้นช้ากว่า เพราะโครงการต่าง ๆ วางแผนล่วงหน้าและเป็นการลงทุนระยะยาว” “เราน่าจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม หากภาษียังคงมีอยู่ แต่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ผลกระทบจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น และน่าจะเริ่มเห็นได้ในไม่ช้า” เขากล่าว