เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐ แถลงผลการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า สหรัฐและจีนตกลงลดภาษีระหว่างกันเหลือ 10% และ 30% ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า สกอตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลังสหรัฐ แถลงผลการประชุมการเจรจาการค้ากับจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ 12 พฤษภาคม เวลาท้องถิ่น ระบุว่า สหรัฐและจีนเห็นพ้องให้มีการลดภาษีระหว่างกันครั้งใหญ่เป็นเวลา 90 วัน กำหนดเริ่มก่อนวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ซึ่งฝ่ายจีนจะลดภาษีสินค้าสหรัฐบางรายการเหลือ 10% จาก 125% ส่วนฝ่ายสหรัฐลดภาษีให้จีนเหลือ 30% จาก 145%
เบสเซนต์กล่าวอธิบายเพิ่มเติมว่า ผลการเจรจาทำให้สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอยู่ที่ 30% โดยรวมอัตราที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลที่บังคับใช้เมื่อต้นปีนี้ด้วย และอัตราภาษี 30% ดังกล่าวไม่รวมภาษีกลุ่มสินค้า เช่น เหล็กและอะลูมิเนียมที่เรียกเก็บทั่วโลก ดังนั้น สินค้าจีนบางรายการจึงยังคงต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้นอยู่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนเทียบกับยูโรและเยน
ไท ฮุ่ย หัวหน้านักยุทธศาสตร์ตลาดประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จาก J.P. Morgan Asset Management กล่าวว่า การลดภาษีนำเข้าครั้งนี้มีขอบเขตกว้างกว่าที่คาดไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายต่างรับทราบถึงความเป็นจริงทางเศรษฐกิจที่ว่าภาษีนำเข้าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของโลก และการเจรจาเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับอนาคต
ทางด้านจามีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐที่ร่วมแถลงข่าวโต้กลับหลังจากนักข่าวถามถึงความชาญฉลาดในการใช้นโยบายภาษีนำเข้า เนื่องจากสร้างความเจ็บปวดและความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจะดีกว่าไหมหากหยุดภาษีเหล่านั้นแล้วเจรจากันโดยไม่เก็บภาษีแทน
เกรียร์ตอบอย่างชัดเจนว่าระบบการค้าไม่ยุติธรรมต่อฝ่ายสหรัฐ และสหรัฐจำเป็นต้องลดการขาดดุลการค้า ซึ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทางเบสเซนต์ย้ำไปในทิศทางเดียวกับเกรียร์ว่า “การดำเนินธุรกิจตามแนวทางปกติ” จะไม่ประสบผลสำเร็จในการแก้ปัญหาดังกล่าว
ที่น่าสนใจคือ เบสเซนต์กล่าวว่า ไม่มีการหารือเกี่ยวกับค่าเงินระหว่างการเจรจา และอย่างที่ทราบเงินหยวนเป็นหัวข้อที่ละเอียดอ่อนสำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งกล่าวหาฝ่ายจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลงเพื่อกระตุ้นการส่งออก
กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงข่าวเกี่ยวกับผลการเจรจา โดยโฆษกกระทรวง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมจากข้อมูลของสหรัฐ
หลังจากการแถลงข่าวของทั้งสหรัฐและจีนสิ้นสุดลง กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์เพิ่มเติม ซึ่งเน้นถึงความคืบหน้าที่สำคัญในการเจรจาการค้า โดยระบุว่าทั้งสองประเทศจะยังคงทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ประโยคหนึ่งในแถลงการณ์ยังโจมตีสหรัฐโดยระบุว่าเจ้าหน้าที่จีนหวังว่าสหรัฐ จะแก้ไขการปฏิบัติที่ผิดพลาดในการขึ้นภาษีนำเข้าฝ่ายเดียวอย่างถี่ถ้วน
นอกเหนือจากการคลี่คลายข้อขัดแย้งทางภาษีแล้ว จีนยังกล่าวอีกว่าจะระงับหรือยกเลิก มาตรการตอบโต้ที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร ที่บังคับใช้กับสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ซึ่งน่าจะหมายถึงการเพิ่มแร่หายาก 7 ชนิดเข้าในรายชื่อควบคุมการส่งออกของจีนเมื่อวันที่ 4 เมษายน เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีของทรัมป์