สงคราม "รัสเซีย-ยูเครน” ทำราคาเหล็กโลกพุ่งจริงหรือ?

15 มิถุนายน 2565
สงคราม "รัสเซีย-ยูเครน” ทำราคาเหล็กโลกพุ่งจริงหรือ?

          ผมสามารถฟันธงได้เลยว่าราคาน้ำมันและก๊าซ ราคาสินค้าเกษตรทั้งที่เป็นอาหารคน สัตว์และพืชพลังงาน รวมไปถึงราคาปุ๋ยในตลาดโลกที่สูงขึ้นในขณะนี้ สาเหตุมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

          ส่วน “ราคาเหล็ก” ในตลาดโลกที่สูงช่วง 3-4 เดือนที่ผ่าน หรือในครึ่งปีหลัง 2565 นั้น จะเป็นผลมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนหรือไม่

          ผมขอเริ่มอย่างนี้ครับ ความต้องการใช้เหล็กในอนาคตจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเพราะเหล็กสามารถนำมารีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ในขณะที่ปูนซิเมนต์ไม่สามารถทำได้ ปัจจุบันเราได้เห็นตึกอาคาร โรงแรม และบ้านเรือนสมัยใหม่สร้างเป็น “โครงสร้างเหล็ก” ที่เห็นชัดเจน (อย่างไรก็ตามต้นทุนในการก่อสร้างสูงกว่าคอนกรีต 30%) บางครั้งเรียกว่า “อาคารสีเขียว”

          รถยนต์แบรนด์ดังของยุโรปก็ให้ความสำคัญกับการนำเหล็กที่ใช้แล้วมาใช้ใหม่ รวมถึงมีการใช้เหล็กที่ผลิตโดย  “พลังงานไฮโดรเจนที่ใช้พลังงานชีวมวล” และในอนาคตจะใช้เหล็กสีเขียวที่ผลิตในสวีเดน (H2 Green Steel) โดยสวีเดนมีเป้าหมายเป็นผู้นำการผลิตเหล็กสีเขียวในปี 2573 (กระบวนการผลิตเหล็กชนิดนี้ ไม่ใช้พลังงานฟอสซิลเลย)

          ด้วยเหตุผลทั้งหมดก็เพื่อ “ลด CO2”  ความต้องการเหล็กที่เพิ่มขึ้นข้างต้น สอดคล้องกับผลผลิตเหล็กโลกที่เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกันจาก 1.5 พันล้านตัน (2012) เป็น 1.9 พันล้านตัน (2021) ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา

          จีนยังคงครองเบอร์หนึ่งของโลกในการผลิตเหล็ก (สัดส่วน 50%) อินเดีย (สัดส่วน 6%) ญี่ปุ่น (สัดส่วน 5%) และรัสเซีย (สัดส่วน 4% ปริมาณ 76 ล้านตัน ผลิตอันดับ 5 ของโลก) ส่วนยูเครนผลิตสัดส่วน 1% เป็นอันดับ 14 ของโลก “จีนผลิตมากและความต้องการสูงเช่นกัน” สัดส่วน 53% ของความต้องการโลก ตามด้วยอินเดียและสหรัฐฯ

          สงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้ราคาเหล็กในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ ขอให้พิจารณาดังนี้ 1.ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น น้ำมันมีสัดส่วน 5% ในการผลิตเหล็ก หากเราพิจารณาราคาเหล็กในตลาดโลกของ “steelbenchmarker” พบว่าเหล็กรีดร้อน (Hot-rolled Band) เหล็กรีดเย็น (Cold-rolled Coil) เหล็กเส้น (Rebar) เศษเหล็ก (Steel Scrap)

อ่านต่อได้ที่ : httphttps://bit.ly/3Oj5x1u


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.