"กอช." เคาะ 4 แนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยฝ่าวิกฤตสู่ความยั่งยืน
กอช. เคาะ 4 แนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยฝ่าวิกฤตสู่ความยั่งยืน มุ่งบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.) ครั้งที่ 1/2565 มีการพิจารณา 4 เรื่องสำคัญที่จะขับเคลื่อนภาคการผลิตเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศมีทิศทางที่สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศในทุกระดับ รวมทั้งจะเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็วภายใต้การบูรณาการของทุกภาคส่วน
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้จะเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีเอกภาพภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศอย่างรอบด้าน ครอบคลุม ตลอดห่วงโซ่มูลค่าในทุกมิติ โดยที่ประชุม กอช. ได้มีมติเห็นชอบใน 4 เรื่องสำคัญ ดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง เพื่อเสนอที่ประชุมพิจารณา (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565-2570)
โดยตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในอาเซียน และมีเทคโนโลยีเป็นของตนเองภายในปี 2570 ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย 3 มาตรการ ได้แก่
ยกระดับศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะเดิม และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
กระตุ้นอุปสงค์เพื่อสร้างตลาดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในประเทศ และต่อยอดการสร้างหรือพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
สร้างและพัฒนา Eco System สําหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ กอช. มีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2565-2570) และมอบหมายให้ อก. นำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ เสนอสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)/ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาตามระเบียบและขั้นตอนต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง เพื่อเสนอที่ประชุมพิจารณา (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมพืชกัญชงสู่เชิงพาณิชย์ (พ.ศ. 2566- 2570) โดยตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางพืชกัญชงเชิงอุตสาหกรรม แห่งอาเซียน (Industrial Hemp Hub of ASEAN) ภายใน 5 ปี ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วย 4 มาตรการสำคัญ ได้แก่
สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่กัญชง
ส่งเสริมการผลิตและแปรรูปเชิงพาณิชย์
ส่งเสริมด้านการตลาด
สร้างปัจจัยสนับสนุนให้เอื้อต่อการประกอบการ
โดยแบ่งการดําเนินการเป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะ 1 ปี : เร่งสร้าง Enabling และความมั่นคงทางวัตถุดิบ 2. ระยะ 3 ปี : ยกระดับการผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์กัญชง และ 3. ระยะ 5 ปี : สนับสนุนการผลิตนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก ระยะ 5 ปี
ที่ประชุมคณะกรรมการ กอช. มีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมพืชกัญชงสู่เชิงพาณิชย์ (พ.ศ. 2566-2570) และมอบหมายให้ อก. นํา (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ เสนอ สศช./ ครม. เพื่อพิจารณาตามระเบียบและขั้นตอนต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง เพื่อเสนอที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบ เรื่อง การส่งเสริมและแก้ไขปัญหาอุปสรรคเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยประเด็นพิจารณา 2 ประเด็น คือ
พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการ กรอบแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ปี พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งเป็นแผนระดับ 3 ด้านการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของประเทศไทย ภายใต้การบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 10 กระทรวง
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ กอช. มีมติเห็นชอบในหลักการกรอบแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ปี พ.ศ. 2566-2570 และแนวทางการจัดตั้งกองทุนอุตสาหกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาด้าน สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย
4.กลไกขับเคลื่อนการดําเนินงานของคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ
สาระสำคัญของเรื่อง เพื่อให้การขับเคลื่อนการดําเนินงานของ กอช. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อก. จึงเสนอที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ภายใต้ กอช. เพื่อทําหน้าที่กําหนดกรอบและแนวทางการดําเนินงาน จัดทําและเสนอแนะนโยบาย แผนยุทธศาสตร์ มาตรการ และแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรค รวมทั้งประสานและบูรณาการการดําเนินงานในประเด็นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลการปฏิบัติงานต่อ กอช. เป็นระยะ ตามความเหมาะสม ประกอบด้วย 3 กลไกสำคัญ ดังนี้
คณะอนุกรรมการด้านความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรม มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ผู้แทน อว./ ผู้แทน พณ. เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ จํานวน 21 หน่วยงาน ร่วมเป็นอนุกรรมการ
คณะอนุกรรมการด้านอุตสาหกรรมยั่งยืน มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และรองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ผู้แทน ทส./ ผู้แทน มท. เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ จํานวน 21 หน่วยงาน ร่วมเป็นอนุกรรมการ
คณะอนุกรรมการด้านสิทธิประโยชน์และการอํานวยความสะดวกภาคอุตสาหกรรม มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้รับมอบหมาย และรองปลัดกระทรวงการคลัง (กลุ่มภารกิจด้านรายได้) เป็นรองประธาน ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ผู้แทน พณ./ ผู้อํานวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สํานักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ จํานวน 18 หน่วยงาน ร่วมเป็นอนุกรรมการ
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ กอช. อนุมัติการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ โดยมีองค์ประกอบและอํานาจหน้าที่ตามที่เสนอ ซึ่งจะทำให้เห็นภาพของกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศในระยะต่อไปที่ชัดเจน ครอบคลุมและรอบด้าน สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างเป็นรูปธรรมสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริงต่อไป