Tata Steel ของอินเดีย เริ่มทดลองใช้ไฮโดรเจนในเตาหลอมเหล็กที่เมือง Jamshedpur เพื่อพยายามผลิตเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำเป็นครั้งแรก
Tata Steel ซึ่งมีกำลังการผลิตเหล็กดิบ 35 ล้านตัน/ปี และมีเป้าหมาย net zero ภายในปี 2045 ได้เริ่มการทดลองใช้ซึ่งจะกินเวลานานถึง 5 วัน กล่าวเมื่อวันที่ 23 เมษายน.
“ความสำเร็จของการทดลองนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Tata Steel ในการออกแบบการผลิตและติดตั้งระบบหัวฉีด การพัฒนาและสร้างปลอดภัยโดยทั่วไปและกระบวนการที่จำเป็น และมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการควบคุมกระบวนการสำหรับการฉีดไฮโดรเจนบริสุทธิ์เข้าไปในเตาหลอมโลหะ” ทางบริษัทกล่าว ในการทดลองนี้มีศักยภาพในการลดอัตราของเตาถ่านโค้กได้ 10% ซึ่งแปลงเป็นการลดการปล่อย CO2 ประมาณ 7%-10% ต่อตันของเหล็กดิบ
ในเดือนกันยายน 2021 Carbon Clean ของสหราชอาณาจักร ได้ติดตั้งเครื่องดักจับคาร์บอนสาธิตบนเตาหลอมเหล็กที่โรงงาน Jamshedpur ของ Tata Steel ซึ่งระบบนี้ได้รับการออกแบบให้ดักจับ CO2 ได้ 5 ตัน/วัน จากก๊าซไอเสียของเตาหลอม โดย CO2 นั้นจะพร้อมสำหรับการนำกลับมาใช้ใหม่ในงานที่หลากหลาย
อินเดียเป็นผู้ปล่อย CO2 มากเป็นอันดับสามของโลก ด้วยเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มการปล่อยก๊าซมากขึ้นในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า
หลังจากปล่อยภารกิจไฮโดรเจนแห่งชาติเมื่อเดือนมกราคม รัฐบาลอินเดียพูดถึงการกำหนดเป้าหมายการบริโภคไฮโดรเจนหมุนเวียนที่จำเป็นสำหรับภาคส่วนต่างๆ เพื่อสร้างความต้องการเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับนโยบายคาร์บอนที่ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ รัฐบาลอินเดียได้พูดถึงเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ลดลงจนเหลือศูนย์ในปี 2070
ในสถานการณ์อ้างอิงตาม แบบจำลอง Global Integrated Energy ของ S&P Global Commodity Insights คาดการณ์การปล่อยคาร์บอนของอินเดียจากภาคอุตสาหกรรมว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.48 พันล้านตันต่อปี ในปี 2023 เป็น 3.38 พันล้านตันต่อปี ในปี 2045
Platts ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ S&P Global ประเมินว่าไฮโดรเจนในกาตาร์ที่ผลิตด้วย PEM electrolysis มีค่าใช้จ่ายรวม ในวันที่ 24 เมษายน อยู่ที่ $3.51/กก. ลดลง 1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และได้ประเมิน carbon neutral hydrogen (ex-works) ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือมีราคาอยู่ที่ 3$3.8/กก. ลดลง 3.3% จากเดือนที่แล้ว
---- S&P Global Commodity Insights.