อารามโค เป่าสตีล และพีไอเอฟ เซ็นสัญญาสร้างโรงงานผลิตเหล็กเพลทครบวงจรแห่งแรกในซาอุดีอาระเบีย

03 พฤษภาคม 2566
อารามโค เป่าสตีล และพีไอเอฟ เซ็นสัญญาสร้างโรงงานผลิตเหล็กเพลทครบวงจรแห่งแรกในซาอุดีอาระเบีย

          อารามโค (Aramco) บริษัทชั้นนำของโลกด้านพลังงานและเคมีแบบบูรณาการ ร่วมกับเป่าซาน ไอรอน แอนด์ สตีล (Baoshan Iron & Steel Co., Ltd.) หรือเป่าสตีล (Baosteel) กลุ่มบริษัทเหล็กกล้าชั้นนำของโลก และกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Public Investment Fund) หรือพีไอเอฟ (PIF) ได้ลงนามในข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้น เพื่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กเพลทครบวงจรในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

          โรงงานร่วมทุนแห่งนี้ยังอยู่ระหว่างการขออนุมัติตามกฎข้อบังคับและเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม โดยคาดว่าจะตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมราสอัลไคร์ (Ras al-Khair Industrial City) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ที่เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย นายกรัฐมนตรี และประธานสภาเศรษฐกิจและการพัฒนา เพิ่งประกาศไป

          โรงงานแห่งนี้จะหลอมรวมระบบนิเวศบริการด้านพลังงานและอุตสาหกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้ของอารามโค เข้ากับความสามารถในอุตสาหกรรมเหล็กเพลทขั้นสูงของเป่าสตีล และความสามารถทางการเงินและความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งของพีไอเอฟ โดยจะเป็นโรงงานเหล็กเพลทครบวงจรแห่งแรกในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งจะช่วยยกระดับระบบนิเวศอุตสาหกรรมเหล็กในภูมิภาค โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับภาคการผลิตในประเทศ โดยหันมาผลิตเหล็กเพลทหนัก ถ่ายทอดความรู้ และสร้างโอกาสในการส่งออกจากในประเทศเอง

          โรงงานแห่งนี้คาดว่าจะมีกำลังการผลิตเหล็กเพลทสูงถึง 1.5 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ยังจะติดตั้งเตาเผาเหล็กพรุน (DRI) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและเตาอาร์คไฟฟ้า ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตเหล็กให้ได้ 60% เมื่อเทียบกับเตาหลอมเหล็กแบบดั้งเดิม โรงงานเหล็กพรุนแห่งนี้รองรับการใช้ไฮโดรเจนได้ โดยไม่จำเป็นต้องดัดแปลงอุปกรณ์จำนวนมาก ซึ่งในอนาคตอาจลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 90%

          คุณอามิน เอช แนสเซอร์ ( Amin H. Nasser) ประธานและซีอีโอของอารามโค กล่าวว่า "โรงงานผลิตเหล็กเพลทแห่งแรกของราชอาณาจักรฯ คาดว่าจะช่วยยกระดับระบบนิเวศอุตสาหกรรมเหล็กของซาอุดีอาระเบียและปรับปรุงซัพพลายเชนในท้องถิ่น การร่วมทุนครั้งนี้อยู่ภายใต้โครงการลงทุนภาคอุตสาหกรรมของอารามโคอย่างนามัต (Namaat) และได้รับการสนับสนุนจากโครงการชารีค (Shareek) ของรัฐบาล โดยคาดว่าจะช่วยสร้างงานและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการกระจายความเสี่ยงได้ การร่วมทุนครั้งนี้ยังเป็นตัวอย่างของการนำความเชี่ยวชาญจากภาคส่วนอื่น ๆ มารวมกัน ซึ่งเมื่อได้เป่าสตีลและพีไอเอฟเข้ามาสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพในภาคอุตสาหกรรมของราชอาณาจักรฯ แล้ว ทางอารามโคก็ตั้งเป้าที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทและพันธมิตรของเรา"

          คุณยาซีด เอ อัลฮูมีด ( Yazeed A. Al-Humied) รองผู้ว่าการและหัวหน้าฝ่ายการลงทุนประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ กองทุนพีไอเอฟ กล่าวว่า "พีไอเอฟกำลังสร้างความหลากหลายให้กับเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบีย โดยปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ และส่งเสริมภาคส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญในตลาดท้องถิ่น ความร่วมมือครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กเพลทครบวงจร เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมของซาอุดีอาระเบีย และเข้ามามีบทบาทในฐานะซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมโลหะ นอกจากนี้ยังจะสานต่อพันธกิจของพีไอเอฟในการจัดตั้งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ใหม่ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก พัฒนาเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในท้องถิ่น สนับสนุนภาคเอกชน และสร้างโอกาสในการทำงานทั้งทางตรงและทางอ้อมในตลาดท้องถิ่น โดยนับตั้งแต่ปี 2560 ทางพีไอเอฟได้ลงทุนใน 13 ภาคส่วนเชิงกลยุทธ์และจัดตั้งบริษัทในประเทศขึ้นใหม่ 77 แห่งด้วยกัน"

          คุณโจว จี้ซิน ( Zou Jixin) ประธานเป่าสตีล กล่าวว่า "โครงการนี้เป็นแนวปฏิบัติที่เป่าสตีลดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อสำรวจเส้นทางคาร์บอนต่ำสำหรับอุตสาหกรรมเหล็ก นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการส่งเสริมกลยุทธ์การพัฒนาระหว่างประเทศของเป่าสตีล โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลลัพธ์อันดีในการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมเหล็กกล้าในท้องถิ่น พร้อมส่งเสริมการสร้างงาน และความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในซาอุดีอาระเบีย"

          คุณเฉิน เต๋อหรง (Chen Derong) ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทเป่าอู่ (Baowu Group) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเป่าสตีล และคุณหู หวังหมิง (Hu Wangming) ประธานบริหารกลุ่มบริษัทเป่าอู่ ก็ได้ให้การรับรองโครงการดังกล่าวอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน

          ซาอุดีอาระเบียจะเป็นตลาดเป้าหมายหลักของโครงการนี้ โดยมีแผนส่งออกไปยังกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ รวมถึงภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งจะช่วยสร้างงานใหม่และลดการพึ่งพาเหล็กนำเข้าได้อย่างมาก โดยให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมทางยุทธศาสตร์หลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นท่อส่ง การต่อเรือ การผลิตแท่นขุดเจาะ การผลิตแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่ง และการผลิตแทงค์และถังแรงดัน นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายเพื่อรองรับภาคการก่อสร้าง พลังงานทดแทน และภาคการเดินเรือด้วย

          การลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์ของพีไอเอฟ ในการปลดล็อกศักยภาพของภาคส่วนที่มีแนวโน้มสดใสและอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนการกระจายความเสี่ยงของเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยสนับสนุนภาคส่วนสำคัญ ๆ ของพีไอเอฟที่จำเป็นต้องใช้เหล็กเพลท และสร้างอุตสาหกรรมเหล็กที่ยืดหยุ่นมากขึ้นในภูมิภาค

          โรงงานเหล็กเพลทแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยโครงการชารีคของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีขึ้นเพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน สร้างงาน และยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจซาอุดีอาระเบีย โดยให้สิ่งจูงใจส่งเสริมการลงทุนในประเทศ นอกจากนี้ยังอยู่ภายใต้โครงการนามัตของอารามโค ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซัพพลายเชน ไปจนถึงการกระจายการลงทุนและขยายภาคอุตสาหกรรมของซาอุดีอาระเบีย

แหล่งที่มา : RYT9


แหล่งที่มา : RYT9

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.