สมอ.คุมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสี สกัดเหล็กด้อยคุณภาพเข้าไทยบังคับปี67

24 พฤษภาคม 2566
สมอ.คุมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสี สกัดเหล็กด้อยคุณภาพเข้าไทยบังคับปี67

          กรุงเทพฯ-บอร์ด สมอ. มีมติเห็นชอบให้เหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียมและแมกนีเซียม เป็นสินค้าควบคุม คาดมีผลบังคับใช้ปี 67 ผู้ทำและผู้นำเข้าต้องได้รับอนุญาตจาก สมอ. ก่อนป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และก่อสร้าง

          นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมาว่า บอร์ดมีมติให้ สมอ. ควบคุมเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียมและแมกนีเซียม ต้องมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 2981-2562 และ มอก. 3059-2563 เพื่อความปลอดภัยในการนำไปใช้งาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งอุตสาหกรรมการก่อสร้างต่างๆ โดยจะมีผลบังคับใช้ในปี 2567 พร้อมทั้งเห็นชอบมาตรฐานอื่น ๆ อีก 6 มาตรฐาน เช่น เครื่องจักรผสมวัตถุระเบิดแอนโฟสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม เมตาดาตาสำหรับข้อมูลเมืองอัจฉริยะ มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์และระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ สมอ. ทำมาตรฐานเพิ่มในปี 2566 อีก 3 มาตรฐาน ได้แก่ มาตรฐานเต้าเสียบและเต้ารับที่มีช่อง USB มาตรฐานกระบวนการทดสอบยานยนต์ขนาดเล็ก และมาตรฐานกรวยจราจรน้ำยางข้น รวมเป็นแผนทั้งสิ้น 656 มาตรฐาน

          นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีปริมาณการนำเข้าเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียมและแมกนีเซียมเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะ โดยในปี 2565 มีปริมาณการนำเข้าสูงถึง 743,444 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท สมอ. จึงจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพเหล็กที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยในการนำไปใช้งาน รวมทั้งเป็นการควบคุมคุณภาพเหล็กที่มีการใช้งานลักษณะเดียวกันกับเหล็กเคลือบสังกะสีที่ประกาศเป็นสินค้าควบคุมไปก่อนหน้านี้ด้วย”

          ปัจจุบัน สมอ. มีผลิตภัณฑ์เหล็กที่ประกาศเป็นสินค้าควบคุมแล้ว จำนวน 21 รายการ โดยในการประชุมครั้งนี้ บอร์ด สมอ. ได้มีมติให้ควบคุมเพิ่มอีก 2 รายการ ได้แก่ เหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียมและแมกนีเซียม ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 2981-2562 และ มอก. 3059-2563 เนื่องจากเป็นเหล็กที่นำไปใช้งานในลักษณะเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ปริมาณธาตุองค์ประกอบที่ผสมในผิวที่เคลือบ ซึ่งมาตรฐาน มอก. 2981-2562 เป็นเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียม 5% ถึง 13% และแมกนีเซียม 2% ถึง 4% โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน ส่วนมาตรฐาน มอก. 3059-2563 เป็นมาตรฐานเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียม 0.5% ถึง 6% และแมกนีเซียม 0.4% ถึง 4% โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน ซึ่งเหล็กทั้ง 2 รายการมีสมบัติทนต่อการกัดกร่อน ทนต่อการ ขีดข่วน และทนต่อสารเคมี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ก่อสร้าง งานโครงสร้างหรือหลังคาอาคารที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลซึ่งมีการกัดกร่อนสูง โครงสร้างของโรงงานสารเคมี หรือทำคอกเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ ทั้งนี้ คาดว่ามาตรฐานจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2567 เลขาธิการ สมอ. กล่าว

แหล่งที่มา : In News

 


แหล่งที่มา : In News

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.