เหล็กจีนเลี่ยงเอดี ทุ่มตลาดไทยหนัก 5 เดือนทุบกำลังผลิตเหลือ 29%

03 สิงหาคม 2566
เหล็กจีนเลี่ยงเอดี ทุ่มตลาดไทยหนัก 5 เดือนทุบกำลังผลิตเหลือ 29%

          จีนยังทุ่มตลาดเหล็กอาเซียนหนัก หลังเศรษฐกิจ-อสังหาริมทรัพย์แดนมังกรซบ แฉเลี่ยงเอดีทุบผู้ประกอบการไทย การใช้กำลังผลิต 5 เดือนแรก เหลือเฉลี่ยแค่ 29% สถาบันเหล็กฯหนุนรัฐใช้มาตรการตอบโต้ ฟื้นกำลังผลิตในประเทศ

          นายวิโรจน์  โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาของสินค้าเหล็กทั้งในประเทศไทยและในกลุ่มประเทศอาเซียน ณ ปัจจุบัน ยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่ประเทศจีนมีการส่งออกสินค้าสำเร็จรูปเป็นจำนวนมากในครึ่งแรกของปี 2566 โดยมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 41.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2565 โดยตลาดการส่งออกหลักของจีนอยู่ที่ประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะไทยที่มีอัตราการนำเข้าจากจีนสูงขึ้นถึงกว่า 50%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2565 สืบเนื่องจากการที่ประเทศจีนมีปริมาณการผลิตเหล็กในประเทศสูงขึ้นเป็น 445ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.1 %  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2565  แสดงให้เห็นถึงปัญหาของอุปสงค์ภายใน

          จากปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาสินค้าเหล็กของประเทศไทย และประเทศในอาเซียนด้วย โดยสมาคมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศจีน (China Iron and Steel Association : CISA) ได้เปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาเหล็กของจีน (China steel price index :CSPI) ประจำเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ระดับ 109.19 ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับระดับดัชนีราคาในเดือนเดียวกันของปี 2565 ที่ระดับ 122.52  ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาตลาดสินค้าเหล็กยังต้องฝากความหวังไว้กับการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ของครึ่งปีหลัง ที่จะเป็นตัวดูดซับปริมาณเหล็กที่ผลิตออกมา

          อย่างไรก็ดีสินค้าเหล็กสำเร็จรูปที่นำเข้าจากประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดของผู้ผลิตในประเทศ ส่วนใหญ่เกิดจากการหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า (Circumvention) เช่น สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อน หรือสินค้าเหล็กลวดที่มีการเจืออัลลอย เพื่อหลบเลี่ยงพิกัดศุลกากรที่มีปริมาณนำเข้าในช่วง 5 เดือนแรกปี 2566 เพิ่มขึ้นถึง 286% และ 23.7% ตามลำดับ หรือการนำเหล็กเคลือบประเภทต่าง ๆ มาใช้แทนเหล็กเคลือบที่มีมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD)   ส่งผลให้เกิดการบั่นทอนประสิทธิภาพการบังคับใช้มาตรการ AD ในปัจจุบัน

          สถาบันเหล็กฯ เห็นว่าการใช้ตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า (Anti-Circumvention: AC) มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับที่ประเทศต่าง ๆ มีการบังคับใช้ เช่น กรณีสหภาพยุโรปมีการใช้มาตรการ AC กับสินค้าเหล็กเคลือบสังกะสีของจีน หรือกรณีที่สหรัฐใช้มาตรการ AC กับสินค้าเคลือบสังกะสีจากเวียดนาม หรือกรณีที่บราซิลใช้มาตรการ AC สินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยจากประเทศจีน เป็นต้น

          สอดคล้องกับข้อมูลของสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ได้รายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กของไทยว่า ข้อมูลการบริโภคเหล็กของไทย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ 7.17 ล้านตัน ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณ 7.03 ล้านตัน โดยในรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้ อุตสาหกรรมภายในประเทศสามารถผลิตเหล็กได้จำนวน 2.81 ล้านตัน ลดลงถึง 14.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีเข้ามามากถึง 4.99 ล้านตัน เพิ่มขึ้นถึง 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปีก่อน

          แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสินค้าในประเทศถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดจากสินค้านำเข้า  ในขณะที่ประเทศไทยมีการส่งออกอยู่ที่ 0.63 ล้านตัน ขยายตัว 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า  ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเหล็กของผู้ผลิตในประเทศไทยในปีนี้ (5 เดือนแรกของปี) เฉลี่ยที่ 29%  ลดลงจาก 33% จากช่วงเดียวกันในปี 2565 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตของประเทศในอาเซียนที่อยู่ในระดับ 52.3%

          ทั้งนี้ปัญหาหลักเกิดจากการที่ประเทศไทยยังมีการนำเข้าเหล็กในสัดส่วนที่สูงมากในอัตรา 70% ของการบริโภค และพบว่าการนำเข้าของประเทศไทย  มีค่าที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยการนำเข้าของประเทศในอาเซียนที่อยู่ในระดับเพียง 22% เท่านั้น (ที่มาข้อมูลอัตราการผลิตและอัตราการนำเข้าของประเทศอาเซียน : สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าอาเซียน หรือ The South East Asia Iron And Steel Institute (SEAISI))


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.