ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค. ลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน กังวลศก.ไทยฟื้นช้า

19 เมษายน 2567
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค. ลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน กังวลศก.ไทยฟื้นช้า

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมี.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 63 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่เดือนส.ค. 66 เป็นต้นมา

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 56.9 59.8 และ 72.2 ตามลำดับ ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนทุกรายการเช่นกัน เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนก.พ. ที่อยู่ในระดับ 57.7 60.4 และ 73.2 ตามลำดับ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมี.ค. ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่เดือนส.ค. 66 เป็นต้นมา เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน และผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อบานปลาย อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจไทย

อย่างไรก็ดี การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้าค่าครองชีพสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยและทั่วโลก ตลอดจนสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน กับอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซาที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในเชิงลบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออก ธุรกิจโดยทั่วไป และการจ้างงานในอนาคต โดยยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้

“ดัชนีเดือนมี.ค. ปรับตัวเล็กลงเล็กน้อยจากก.พ. และลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน แสดงว่าเศรษฐกิจที่หลายคนคาดหวังว่าจะโต และฟื้นตัวดีขึ้น แต่บรรยากาศมีการแผ่วแรงในเดือนมี.ค. อาจมาจาก 2 สาเหตุสำคัญ คือ 1.สถานการณ์ราคาพลังงานเริ่มสูง โดยเฉพาะเบนซิน ค่าครองชีพสูง และ 2. เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว ไม่คึกคัก จากพืชผลทางการเกษตรที่ออกสู่มือเกษตรกรไม่มาก ผลผลิตทางการเกษตรยังติดลบจากปัญหาภัยแล้ง ดังนั้น ราคาพืชผลเกษตรสูง แต่รายได้เกษตรกรยังติดลบ ทั้ง 2 ปัจจัยเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้บรรยากาศของเศรษฐกิจทุกภูมิภาคไม่คึกคัก”

นายธนวรรธน์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งปัจจัย คือการที่งบประมาณแผ่นดินยังไม่ถูกใช้ ซึ่งรัฐบาลเริ่มมีสัญญาณที่จะเร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 67 ใช้ในเดือนเม.ย. 67 ดังนั้น สัญญาณที่เกิดขึ้นในเดือนมี.ค. จึงเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 1/67 ดูแผ่วลง คาดโต 1.5-2.0%

อย่างไรก็ดี ภาพของความเชื่อมั่นยังมีสัญญาณที่ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ และมีทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง จากดัชนีที่ปรับตัวดีขึ้นมาตลอด 7 เดือน ทำให้ดัชนีเฉลี่ยในไตรมาส 1/67 ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการยังอยู่นทิศทางขาขึ้น การดรอปลงของความเชื่อมั่นในเดือนมี.ค. เชื่อว่าน่าจะถูกเบรคสัญญาณโดยเทศกาลสงกรานต์ งบประมาณแผ่นดิน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต และการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการลดค่าจดจำนองค่าโอนบ้านที่ราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท


แหล่งที่มา : infoquest

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.