GJS เตรียมลงทุน 1.5 พันล้านบาท ยกระดับศักยภาพการผลิต

13 สิงหาคม 2567
GJS เตรียมลงทุน 1.5 พันล้านบาท ยกระดับศักยภาพการผลิต
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ GJS เปิดเผยการตัดสินใจลงทุนจำนวน 1.5 พันล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปีหลังจากนี้ เพื่อปรับปรุงเครื่องจักร เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตด้านคุณภาพ และความสามารถในการควบคุมต้นทุน

สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ GJS มุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่จะมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยการส่งมอบเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนที่มีคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้าที่มีความต้องการหลากหลายในประเทศไทย

อุตสาหกรรมเหล็ก ภายในประเทศไทย นับเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และยังเป็นส่วนเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ทำให้ประเทศไทยคงความเป็นศูนย์กลางการผลิตอีกด้วย

ทั้งนี้ หลังจาก บริษัท นิปปอน สตีล คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น (NSC) ได้เข้าถือหุ้นหลักของ GJS เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 ด้วยการสนับสนุนทางเทคนิคและการจัดการจาก NSC บริษัทฯ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการปรับปรุงขีดความสามารถของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดย NSC เป็นบริษัทเหล็กที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก หลังจากได้เริ่มก่อตั้งสายการผลิตแรกในประเทศไทยมากว่า 60 ปี และได้ส่งมอบเหล็กคุณภาพสูงให้แก่อุตสาหกรรมการผลิต และตอบสนองความต้องการการใช้เหล็กในสังคมไทย ปัจจุบันกลุ่ม NSC ได้ดำเนินงานโดย 30 บริษัทโดยมีพนักงานรวมมากกว่า 8,000 คนในประเทศไทย โดย NSC มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย รวมทั้ง GJS ด้วย

GJS ได้ดำเนินงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่การผลิต และพัฒนาขีดความสามารถด้านคุณภาพและความสามารถทางการแข่งขันด้านต้นทุน เพื่อเพิ่มความไว้วางใจให้แก่ลูกค้า เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถดังกล่าว บริษัทฯ ได้ตัดสินใจลงทุนประมาณ 1.5 พันล้านบาทในช่วงเวลา 3 ปีหลังจากนี้ไป โดยการลงทุนครั้งนี้ประกอบไปด้วย การพัฒนาระบบการจัดการวัตถุดิบเศษเหล็ก เพื่อลดต้นทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งในระบบรีไซเคิล รวมทั้งการลงทุนในการปรับปรุงเครื่องจักรที่มีอยู่แล้วให้มีเสถียรภาพ รวมทั้งการจัดซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต โดยการตัดสินใจครั้งนี้จะเสริมให้บริษัทฯ คงเสถียรภาพในการผลิต และสร้างโครงสร้างผลกำไรที่มั่นคง ทั้งนี้ GJS มุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจในตลาดเหล็กโครงสร้าง และผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็น (ผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดม้วนและเหล็กชุบเคลือบสังกะสี) และการส่งออกสินค้าไปยังยุโรปและประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน เพื่อสร้างกระแสเงินสดและผลกำไรอย่างยั่งยืน

การเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนครบวงจรกลุ่มเดียวในไทย (รวมถึงบริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ G Steel) บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยการส่งมอบวัสดุที่มีคุณภาพและต้นทุนที่แข่งขันได้ในระยะเวลาส่งมอบที่รวดเร็ว นอกจากนี้ทั้ง G J Steel และ G Steel ยังเป็นกลุ่มบริษัทเดียวซึ่งผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า (Electric Arc Furnace) ซึ่งมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ และยังเป็นผู้รีไซเคิลเศษเหล็กรายใหญ่ในประเทศไทย GJS ได้รับใบรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) การเป็นผู้ผลิตที่ปลดปล่อยคาร์บอนต่ำจะช่วยส่งเสริมการขายด้วยผลิตภัณฑ์เหล็กที่ปลดปล่อยคาร์บอนต่ำสู่ตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งหมดนี้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเป้าหมายของรัฐบาลในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อีกด้วย
แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.