ในเดือนกันยายน การส่งออกเหล็กของจีนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดว่าจะลดลงในไตรมาสที่ 4

24 ตุลาคม 2568
ในเดือนกันยายน การส่งออกเหล็กของจีนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดว่าจะลดลงในไตรมาสที่ 4

การส่งออกเหล็กกึ่งสำเร็จรูปและเหล็กสำเร็จรูป (semi-finished and finished steel) ของจีน ในเดือนกันยายนแตะระดับสูงสุดในปี 2025 โดยเป็นปริมาณรายเดือนสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ ตามข้อมูลล่าสุดของกรมศุลกากร

ผู้เข้าอยู่ในตลาดประเทศจีนกล่าวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมว่า คาดว่าการส่งออกเหล็กจะชะลอตัวลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ท่ามกลางอุปสรรคทางการค้าโลกที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการเหล็กก่อสร้างภายในประเทศที่อ่อนแอ อาจยังคงเป็นตัวสนับสนุนการส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็ก

ข้อมูลจากศุลกากรเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ระบุว่า ในเดือนกันยายน การส่งออกเหล็กกึ่งสำเร็จรูป (semi-finished steel) ของจีน อยู่ที่ 1.494 ล้านตัน ลดลง 15.3% จากเดือนสิงหาคม แต่เพิ่มขึ้น 41.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน การส่งออกเหล็กกึ่งสำเร็จรูป พุ่งขึ้น 224.1% หรือ 7.423 ล้านตัน สู่ระดับ 10.736 เมตริกตัน

ในเดือนกันยายน การส่งออกเหล็กกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูป (semi-finished and finished steel) รวมอยู่ที่ 11.959 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือนสิงหาคม และเพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน การส่งออกเหล็กกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น 17.7% หรือ 14.825 ล้านตัน แตะที่ 98.691 ล้านตัน

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 การนำเข้าเหล็กกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูป ลดลง 24.3% อยู่ที่ 5.158 ล้านตัน

ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน การส่งออกเหล็กกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปสุทธิของจีน อยู่ที่ 93.532 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 21.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน

แหล่งข่าวการค้าหลายแห่งในจีนคาดการณ์ว่า การส่งออกเหล็กของจีนอาจลดลงในเดือนตุลาคม เนื่องจากการจองคำสั่งซื้อในเดือนสิงหาคมมีน้อย ท่ามกลางราคาเหล็กกล้าของจีนที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อจากต่างประเทศปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนการส่งออกเหล็กให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม แหล่งข่าวกล่าว

“ผมคิดว่าการส่งออกเหล็กน่าจะยังคงแข็งแกร่ง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เนื่องจากสหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มการที่จะลดโควตานำเข้าเหล็กและเพิ่มภาษีนำเข้าสำหรับปริมาณที่เกินโควตา ตั้งแต่ต้นปี 2026” แหล่งข่าวด้านการค้ารายหนึ่งกล่าว “ดังนั้น ผู้ซื้อในยุโรปจึงมีแนวโน้มที่จะเร่งซื้อก่อนที่สถานการณ์จะเกิดขึ้น”

ในขณะเดียวกัน ความต้องการเหล็กภายในประเทศของจีนยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาเหล็กกล้าอยู่ในระดับต่ำในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นการสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกของจีน

“ความต้องการเหล็กกล้าก่อสร้างของจีนยังคงอยู่ในแนวโน้มลดลงในปีนี้ และผมคิดว่าแนวโน้มขาลงจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2026” ผู้ค้ารายหนึ่งกล่าว “ดังนั้น การส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว รวมถึงบิลเล็ต (billet) น่าจะยังคงได้รับแรงหนุน”

ผู้ค้าคาดว่าการแข่งขันในตลาดเหล็กระหว่างประเทศจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในปี 2026 อันเนื่องมาจากอุปสรรคทางการค้า ซึ่งอาจส่งผลให้การส่งออกเหล็กกล้าของจีนลดลง

“หากสหภาพยุโรปลดโควตาการนำเข้าเหล็ก ในปี 2026 อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาเป็นลูกโซ่” ผู้ค้ารายที่สามกล่าว

“ผู้ผลิตเหล็กจากประเทศต่าง ๆ ที่ต้องแข่งขันกับเหล็กจีน อาจต้องแย่งส่วนแบ่งตลาดกันหนักขึ้นในประเทศอื่น ๆ ขณะเดียวกัน ประเทศที่นำเข้าเหล็กจากจีนไปแปรรูปแล้วส่งต่อไปยังสหภาพยุโรป ก็อาจเพิ่มมาตรการกีดกันทางการค้าเพื่อลดการนำเข้าเหล็กจากจีนด้วยเช่นกัน

 


แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.